วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552
แก๊งค์ที่เถื่อนที่สุดในโลก - MS13 (Mara Salvatrucha)
MS13 (Mara Salvatrucha)แก๊งค์ที่เถื่อนที่สุดในโลก
พูดถึงอเมริกา ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีสถิตก่ออาชญากรรมมากแห่งหนึ่งของโลก สาเหตุหลักๆ คือ เป็นประเทศเสรีมากเกินไป ไม่มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดพอ และมีหลายเชื้อชาติ อพยพที่มาอเมริกาแล้วไม่มีงานทำ ผลสุดท้ายก็เลือกเส้นทางอาชญากรรมแทนที่จะทำอาชีพสุจริต
นอกเหนือจากเจ้าพ่อแล้ว ก็มีแก๊งค์ทีมีอิทธิพลต่างๆ โดยมีหลายแก๊ง หลายคณะ ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่ของแก๊งล้วนแต่หนักสังคมทั้งนั้น และนี้คือหนึ่งในนั้น....
MS13 (Mara Salvatrucha)
(หนึ่งในสมาชิกแก๊ง MS 13 และรอยสักของแก๊ง)
ปีก่อตั้ง 1980 อาณาเขต อเมริกาเหนือ และละตินอเมริกาใต้
สัญชาติ Latino สมาชิก 100,000 คน(ประมาณ)
กิจกรรมของแก๊ง ค้ายา,โจรกรรม, ขู่เข็น, เรียกค่าคุ้มครอง, ขายอาวุธ, ฆาตกรรม, พ่นสีใส่กำแพง,ทำร้ายร่างกาย
สารคดีช่องยูบีซีเคย เล่าเรื่องแก๊งค์ MS 13 ว่ากันว่าเป็นแก๊งค์ที่โหด แม๊กซิกัน ที่ใช้ความรุนแรง และใหญ่ที่สุดในอเมริกา มีสมาชิกเป็นแสนคน มี อาณาเขตไปถึง 50 รัฐทั่วทั้งอเมริกา
MS13 มีชื่อเต็มว่า Mara Salvatrucha แก๊งนี้ถือเกิดขึ้นในสนามเด็กเล่นบริเวณที่พักของผู้ลี้ภัยชาวซาวาดอเรี่ยนหรือซาน ซัลวาดอร์ ในลอสแอนเจลิสในปี1980(El Savardo หรือ Savardorian) ซึ่งช่วงนั้นผู้อพยพมักถูกรังแก,ดูถูกจากเจ้าถิ่นในพื้นที่ พวกเขาเลยรวมตัวเป็นกลุ่มเพื่อเกิดความสามัคคี เพิ่มความแข็งแกร่ง และตอบโต้เจ้าถิ่นด้วยความรุนแรง
(**เอลซัลวาดอร์ (El Salvador) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ (Republic of El Salvador) เป็นประเทศในแถบอเมริกากลาง มีจำนวนประชากรเกือบ 6.7 ล้านคน เป็นประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดในแผ่นดินใหญ่ของ (ทวีป) อเมริกา ในปี 1980- 1992 เอลซัลวาดอร์ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ทำให้มีการเข่นฆ่าล้างผลาญคนในชาติด้วยกันเอง ระหว่างกองทัพฝ่ายรัฐบาล(ESAF El salvador Armed Forces หรือหน่วยล่าสังหารฝ่ายขวา) กับ ฝ่ายกองทัพปลดแอก(FMLN The Farabundo Front) โดยในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา มีพี่น้องร่วมชาติต้องล้มตายกันไปกว่า 7 หมื่น 5พันคน ประชาชนกว่า 1 ล้านคนต้องพรากแผ่นดินเกิด ไปอาศัยผืนแผ่นดินอื่นอาศัยรวมทั้งอเมริกา)
โดยตอนแรกในการตั้งกลุ่ม ชื่อแก๊งถูกตั้งสั้นๆ คือ MS ซึ่งเป็นภาษา Spanish โดยคำว่า Maraแปลว่าแก๊ง และคำว่า Salvatruja แปลว่าชาวซาวาดอเรี่ยน รวมกันก็ แก๊งชาวซาวาดอเรี่ยนนั่นเอง
ตอนแรกแก๊งค์มีสมาชิกแค่ 13 คน แต่หลังจากทำธุรกิจเกี่ยวกับอาชญากรรม ก็เริ่มมีสมาชิกจำนวนมากเข้ากลุ่มและเริ่มพัฒนาเป็นแก๊งค์ที่มีขนาดใหญ่ในที่สุด
รายได้หลักๆ ของแก๊งค์ MS 13 เรียกค้าคุ้มครองคนเดินสายขายยาเสพติด การค้าอาวุธสงคราม ค้า มนุษย์ และรีดไถพ่อค้าแม่ค้าและบริษัท(ส่วนมากเป็นร้านขายไส้กรอก ห้างร้านต่างๆ ใครอาจไม่จ่ายจะต้องเจอบทเรียนราคาแพงจากแก๊งค์ MS 13 และการหารายดืทังหมดจะต้องทำในอาณาเขตของตนเองเท่านั้น
ขอบเขตอาณาเขตของ MS13 จะมีการแบ่งชัดเจน และแน่นอน และห้ามล่วงล้ำเข้าไปในอาณาเขตของแก๊งอื่นเด็ดขาด เช่นเวลาสมาชิกแก๊งคนหนึ่งอยู่อาณาเขตของ MS13 ในย่านเมืองหนึ่ง คุณจะต้องไม่ล้ำเขตคนอื่นเด็ดขาดเพราะอาจจะโดนเก็บเอาง่าย การใส่เสื้อต่างสีหรือ Throw gang sign คนล่ะอันกันก็เป็นเรื่องได้
จากนั้นเมื่อระบบของแก๊งนี้ก็เพิ่มความซับซ้อนขึ้น และเริ่มทำธุรกิจค้าขายยาเสพย์ติด ส่วนใหญ่จะเป็นคนเดินยาจะเป็นพวกเด็กที่หลอกใช้ให้ไปค้ายาโดยช้ำว่า ศักดิ์ศรี มาล่อ เด็กมีปัญหาที่ไร้การศึกษา และชอบความรุนแรง และก่ออาชญากรรมต่างๆ ทั้งนี้เพราะเวลาตำรวจจับก็จะไม่มีผลกระทบมากนัก
เรื่องอายุสมาชิก ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นอายุ 10-15 ปี ต่ำสุด 8 ปี นอกจากนี้สมาชิกก็จะมียศและตำแหน่งในแก๊งด้วย และนอกจากนี้ก็มีคนบงการหรือหัวหน้าที่จะค่อยให้ลูกน้องไปเก็บใครหรือปล่อยของถูกเรียกว่า OG หรือ Original gangster นั้นเองพวก OG นี้จะมีอายุระหว่าง 23-27 ที่ไม่เกินกว่านี้เพราะส่วนใหญ่สมาชิกที่อายุมากๆ จะเลิกลากันไป ไม่ก็ติดคุก หรือตายในขณะไม่ทันโตเป็นผู้ใหญ่
กฎของแก๊งค์นี้รุนแรงมาก คือเวลา MS 13 ทำพิธีรับน้อง ตามประเพณีคือน้องใหม่หรือคนที่จะเข้าต้องให้สมาชิกในแก๊งค์จํานวน5คนรุมกระเทือบจนครบ13+15วินาทีก่อนจึงจะเข้าได้ ซึ่งผลที่ได้ก็คือเกิด ศักดิ์ศรี ขึ้นในแก๊งค์ ประมาณว่าพวกนายแน่มาก เป็นตัวกระตุ้นเพื่อหลอกใช้งาน เช่น ไปฆ่ายา ไปยิงคน ไปฆ่าคน
แม้การหลอกใช้นี้เป็นเรื่องเหลวไหล แต่พวกนี้ก็ยอมตายเพื่อแก๊งของตัวเอง เวลาจะไปฆ่าแก๊งคนอื่น ก็จะรวมกลุ่มกัน และใช้อาวุธ ทั้งปืนทั้งระเบิด ฆ่าฟันกัน เน้นไปทางก่อความรุนแรงและอาชญากรรม
สัญลักษณ์ของการเป็นแก๊ง MS 13 ก็มีหลายแบบ เช่นพ่นสีใส่กำแพงเพื่อกำหนดอาณาเขตของตนเอง และการพ่นสีนี้ไม่ใช้พ่นกันเล่นๆ นะครับ บางครั้งก็ใส่รายละเอียดเหมือนกัน เช่นใส่ชื่อคน ว่างแปลว่าในพื้นที่นี้มีสมาชิกคนชื่อนี้ตาย และตายเมื่อไหร่ ตายอย่างไร คือสมาชิกคนไหนฆ่าใครไปแล้วบ้าง เป็นต้น
แล้วก็มีสัญลักษณ์อีกประเภทหนึ่งคือรอยสัก สมาชิกจะสักลวดลายต่างๆ บนร่างกาย เพื่อบ่งบอกว่าเป็นสมาชิก MS 13 โดยรอยสักนี้เป็นเหมือนกับใบประวัติ และตัวบอกเรื่องราวของสมาชิกนั้นๆ ด้วย เช่น ตนนี้ติดคุกกี่ครั้ง ติดคุกมากี่ปี ฆ่าคนไปเท่าไหร่ เข้าแก๊งเมื่อไหร่ มียศอะไร ตำแหน่งอะไร เป็นต้น
นอกจากนี้ก็ยังมีรหัสลับด้วย จากภาพเราจะเห็นแก๊งนี้ทำมือเหมือนคาราบาวแดง แต่ไม่ใช้คาราบาวหรอกนะครับ แต่เป็นเขาปีศาจ และเมื่อกลับหัวก็เป็นอักษรเอ็มนั้นเอง
ส่วนรหัสลับต่างๆ ก็มีอย่างเช่น ชี้นิ้วตนเองมาที่ท้องก็หมายความว่าให้สมาชิกคนอื่นใช้มีดเสียบม้องของศัตรู หรือทำมือรูปปืนก็ให้ใช้ปืนยิงเป็นต้น โดยแก๊งค์ MS13 มีศัตรูตัวฉกาจคือ 18th street
(**18th street แก๊งค์นี้ผู้อพยพก็มาจาก San Salvadorเมืองหลวงของซัลวาเดอร์(El salvado )ในทวีปอเมริกากลาง แล้วมีการรวมกลุ่มกันและแพร่เข้ามาใน L.A. โดยมีหน้าที่หลักคือ ขายยา(แต่กฏของแก๊งค์ จะไม่ขายยาให้สมาชิกหรือครอบครัวของตัวเองเพราะจะเป็นฆ่าตัวเอง) คุมพื้นที่ของตัวเอง และมีวิธีการรับน้องและการลงโทษของแก๊งค์เหมือนแก๊งค์อื่นๆ คือ รุมกระทืบ โดยมา ครอบครัวไหนที่เป็นสมาชิกแก๊งค์จะมีความผูกพันธ์ซึ่งกันและกัน เป็นกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ลูก หลาน ลุง น้องสาว พี่สาว ส่วนหัวหน้าใหญ่จะมีหรือไม่มีไม่มีใครทราบได้ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแย่งชิงอำนาจในแก๊งค์ นอกจากนี้แก๊งค์นี้จะปลูกฝังให้เกลียดแก๊งค์ MS 13 ถึงขั้นไล่ยิงกันทีเดียว )
ในวันนึงๆมีสมาชิกฆ่ากันตาย วันละหลายสิบคน บางวันตายกันเป็นร้อย บางทีตายหมูเป็นพันคน(ที่ตายเป็นพันนี้จะเกิดในแถบอเมริกากลางนะครับไม่ได้เกิดที่สหรัฐ)
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในแก๊งค์นี้คือ กฎค่อนข้างเข้มงวดและป่าเถื่อนมาก โดยเฉพาะถ้าสมาชิกคนไหนถูกจับได้ว่าทรยศจะถูกทรมาน รุมกระทิบ หรือไม่ก็ถูกฆ่า ถูกหั่นศพ ไปทิ้งกระจายตามที่ต่างๆ ถ้าทำงานผิดพลาดอาจโดนตัดนิ้ว ตัดมือ หรือ ทำให้พิการ บางคนถูกตัดอวัยวะเพศ แล้วโยนให้หมากิน(ใช้กับศัตรูด้วย)
นอกเหนือจากอเมริกา แก๊ง MS ก็ระบาดไปทั่วทวีปอเมริกากลาง ซึ่งประเทศเอลซัลวาดอร์มีมากที่สุด และนอกจากนั้นก็มีอีกกว่า 15 ประเทศที่เจริญๆ แล้วด้วย ล่าสุดมาถึงญี่ปุ่น ซึ่งเอเซียนั้นก็มีแก๊งค์ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชาติอื่นๆ เช่น Joe Boy,Tiny Raskal Gang,Asian Boyz,Viet boy Wah Ching XXIII, Vice Lords, Texas Syndicate, Bloods, Crips, Nazi Lowriders, Aryan Brotherhood
ส่วนหัวหน้าใหญ่หรือผู้บงการ ก็มีสองเสียงนะครับจากการสัมภาษณ์สมาชิกแก๊ง บางคนบอกว่า “มี” บางคนบอกว่า “ไม่มี” แต่ทางตำรวจบอกว่า “มี” แน่นอน แต่ค่อนข้างจะเป็นความลับ เพราะว่าถ้าเกิดเปิดเผยตัวหัวหน้าใหญ่อาจถูกฆ่าได้ ทำให้ต้องมีการปกปิดภายใน แต่อย่างไรก็ตามเชื่อกันว่าทุกวันนี้หัวหน้าใหญ่ของแก๊งค์บางทีอาจอยู่ในคุก และบงการจากในคุกเพื่อให้สมาชิกก่อความไม่สงบต่อโลกภายนอกก็ได้
ทางรัฐบาลก็ไม่อยู่เฉยนะครับ หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบก็จับตาดูพวกนี้อยู่เหมือนกัน โดยหน่วยงานICE (U.S. Immigration and Customs Enforcement) ซึ่งปัจจุบันICE มีเครือข่ายงานทั่วประเทศ 35 ทีมเพื่อทำหน้าที่จับกุมบุคคลผู้หลบหนีคดี ในปี 2006 งบประมาณให้เพิ่มเป็น 52 ทีมและปี 2007 เพิ่มเป็น 70 ทีม ปัจจุบันมีผู้หลบหนีคดีหรือ fugitive aliens ที่ยังอาศัยอยู่ในสหรัฐประมาณ 500,000 คน บุคคลเหล่านี้ถูกเนรเทศออกไปแล้ว แต่ลักลอบกลับเข้ามาอีก
วิธีการทำงานของหน่วยงานICE คือการออกปฏิบัติการกวาดล้างผู้อยู่อย่างผิดกฎหมาย เริ่มจากการค้นหาข้อมูลเป้าหมายอาทิเช่นการติดตามด้วยกล้องถ่าย การตามผู้ต้องสงสัยตามข้อมูลที่ได้รับมา รวมทั้งยังต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ร่วมด้วย เมื่อออกปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ต้องป้องกันอย่างดีทั้งสวมเสื้อเกราะกันกระสุน สวมถุงมือเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเข็มแทง,มีดบาดหรือรั้วลวดหนามที่จะต้องปีนป่ายข้ามเข้าไปในบ้าน.ที่อยู่เพื่อจับตัวผู้ต้องสงสัย
แต่ปัญหาก็คือเมื่อจับมาได้จะทำอย่างไรกับมันดี จะเอามันไปติดคุกมันก็ไปสร้างอิทธิพลในคุก จะส่งตัวกลับประเทศมันก็ไปสร้างอิทธิพลในประเทศของตนต่อไป จนการเป็นวัฏจักรที่น่ารังเกลียดที่ปราบยังไงก็ไม่หมดจนถึงปัจจุบัน
และนี้คือตัวอย่างคดีดังๆ ที่เกี่ยวกับ AS 13
- 13 กรกฎาคม2003 หญิงสาวชื่อ Brenda Paz ถูกพบเป็นศพที่ Shenandoah ใน เวสท์เวอร์จิเนีย สาเหตุการตายคือถูกแทง สันนิษฐานว่าเธอถูกฆ่าเพราะแจ้งข่าวกิจกรรมของ MS 13 ผลสุดท้ายคดีจบลงเมื่อเพื่อนเธอสี่คนถูกตัดสินความผิดฐานฆาตกรรม
- 23 ธันวาคม 2004 คดีนี้ถือว่าเป็นคดีดังมาก ที่ทำให้สังคมรู้จัก MS13 อย่างกว้างขวาง เหตุเกิดที่ Chamelecón ในออนดูรัส เมื่อรถบัสประจำเมืองถูกบังคับให้หยุด โดยการสกัดกั้นจากพวกแก๊งค์ MS13 และใช้ปืนอัตโนมัติกวดยิงผู้โดยสารในรถ ส่งผลให้ผู้โดยสารตายถึง 28 คน โดยส่วนมากเป็นผู้หญิง และเด็ก ก่อนที่จะมีการจับผู้ต้องสงสัยในเวลาต่อมา ทั้งหมดเป็นสมาชิก MS13 และบางคนถูกจำคุก ในขณะที่บางคนถูกปล่อยตัวเพราะไม่มีหลักฐานเอาผิด
- 13 พฤษภาคม 2006 นาย Ernesto "Smokey" Miranda อดีตทหารและสมาชิกระดับสูงหนึ่งในผู้ก่อตั้ง MS13 ถูกฆาตกรรมในบ้านของเขาเองตำแหน่งสูง ในเอลซัลวาดอร์ โดยชั่วโมงก่อนตายนั้นเขาได้ปฏิเสธคำเชิญงานสังสรรค์สำหรับสมาชิกแก๊งคนหนึ่งที่ปล่อยตัวจากคุก
- 22 มิถุนายน 2008, ในซานฟรานซิสโกแคลิฟอร์เนีย Edwin Ramos อายุ21 อดีตสมาชิก MS13 ได้ยิงฆ่า นาย Anthony Bologna อายุ 48 ปี และMichael อายุ 20 ปี, และMatthew อายุ 16 ปี ลูกชายสองคนของเขา บนรถที่ถนนแคบ
- 26 พฤศจิกายน2008 Jonathan Retana ถูกตัดสินในข้อหาฆ่า Miguel Angel Deras
- กุมภาพันธ์ 2009 ใน โคโลราโดและแคลิฟอร์เนีย มีการกวาดล้างแก๊ง MS13 ทำให้มีการจับสมาชิกได้ 20 คน รวมทั้งโคเคน ยาเสพย์ติดและอาวุธปืนจำนวนมาก
Credit : http://en.wikipedia.org/wiki/Mara_Salvatrucha+ +
MS13 (Mara Salvatrucha)แก๊งค์ที่เถื่อนที่สุดในโลก
พูดถึงอเมริกา ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีสถิตก่ออาชญากรรมมากแห่งหนึ่งของโลก สาเหตุหลักๆ คือ เป็นประเทศเสรีมากเกินไป ไม่มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดพอ และมีหลายเชื้อชาติ อพยพที่มาอเมริกาแล้วไม่มีงานทำ ผลสุดท้ายก็เลือกเส้นทางอาชญากรรมแทนที่จะทำอาชีพสุจริต
นอกเหนือจากเจ้าพ่อแล้ว ก็มีแก๊งค์ทีมีอิทธิพลต่างๆ โดยมีหลายแก๊ง หลายคณะ ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่ของแก๊งล้วนแต่หนักสังคมทั้งนั้น และนี้คือหนึ่งในนั้น....
MS13 (Mara Salvatrucha)
(หนึ่งในสมาชิกแก๊ง MS 13 และรอยสักของแก๊ง)
ปีก่อตั้ง 1980 อาณาเขต อเมริกาเหนือ และละตินอเมริกาใต้
สัญชาติ Latino สมาชิก 100,000 คน(ประมาณ)
กิจกรรมของแก๊ง ค้ายา,โจรกรรม, ขู่เข็น, เรียกค่าคุ้มครอง, ขายอาวุธ, ฆาตกรรม, พ่นสีใส่กำแพง,ทำร้ายร่างกาย
สารคดีช่องยูบีซีเคย เล่าเรื่องแก๊งค์ MS 13 ว่ากันว่าเป็นแก๊งค์ที่โหด แม๊กซิกัน ที่ใช้ความรุนแรง และใหญ่ที่สุดในอเมริกา มีสมาชิกเป็นแสนคน มี อาณาเขตไปถึง 50 รัฐทั่วทั้งอเมริกา
MS13 มีชื่อเต็มว่า Mara Salvatrucha แก๊งนี้ถือเกิดขึ้นในสนามเด็กเล่นบริเวณที่พักของผู้ลี้ภัยชาวซาวาดอเรี่ยนหรือซาน ซัลวาดอร์ ในลอสแอนเจลิสในปี1980(El Savardo หรือ Savardorian) ซึ่งช่วงนั้นผู้อพยพมักถูกรังแก,ดูถูกจากเจ้าถิ่นในพื้นที่ พวกเขาเลยรวมตัวเป็นกลุ่มเพื่อเกิดความสามัคคี เพิ่มความแข็งแกร่ง และตอบโต้เจ้าถิ่นด้วยความรุนแรง
(**เอลซัลวาดอร์ (El Salvador) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ (Republic of El Salvador) เป็นประเทศในแถบอเมริกากลาง มีจำนวนประชากรเกือบ 6.7 ล้านคน เป็นประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดในแผ่นดินใหญ่ของ (ทวีป) อเมริกา ในปี 1980- 1992 เอลซัลวาดอร์ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ทำให้มีการเข่นฆ่าล้างผลาญคนในชาติด้วยกันเอง ระหว่างกองทัพฝ่ายรัฐบาล(ESAF El salvador Armed Forces หรือหน่วยล่าสังหารฝ่ายขวา) กับ ฝ่ายกองทัพปลดแอก(FMLN The Farabundo Front) โดยในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา มีพี่น้องร่วมชาติต้องล้มตายกันไปกว่า 7 หมื่น 5พันคน ประชาชนกว่า 1 ล้านคนต้องพรากแผ่นดินเกิด ไปอาศัยผืนแผ่นดินอื่นอาศัยรวมทั้งอเมริกา)
โดยตอนแรกในการตั้งกลุ่ม ชื่อแก๊งถูกตั้งสั้นๆ คือ MS ซึ่งเป็นภาษา Spanish โดยคำว่า Maraแปลว่าแก๊ง และคำว่า Salvatruja แปลว่าชาวซาวาดอเรี่ยน รวมกันก็ แก๊งชาวซาวาดอเรี่ยนนั่นเอง
ตอนแรกแก๊งค์มีสมาชิกแค่ 13 คน แต่หลังจากทำธุรกิจเกี่ยวกับอาชญากรรม ก็เริ่มมีสมาชิกจำนวนมากเข้ากลุ่มและเริ่มพัฒนาเป็นแก๊งค์ที่มีขนาดใหญ่ในที่สุด
รายได้หลักๆ ของแก๊งค์ MS 13 เรียกค้าคุ้มครองคนเดินสายขายยาเสพติด การค้าอาวุธสงคราม ค้า มนุษย์ และรีดไถพ่อค้าแม่ค้าและบริษัท(ส่วนมากเป็นร้านขายไส้กรอก ห้างร้านต่างๆ ใครอาจไม่จ่ายจะต้องเจอบทเรียนราคาแพงจากแก๊งค์ MS 13 และการหารายดืทังหมดจะต้องทำในอาณาเขตของตนเองเท่านั้น
ขอบเขตอาณาเขตของ MS13 จะมีการแบ่งชัดเจน และแน่นอน และห้ามล่วงล้ำเข้าไปในอาณาเขตของแก๊งอื่นเด็ดขาด เช่นเวลาสมาชิกแก๊งคนหนึ่งอยู่อาณาเขตของ MS13 ในย่านเมืองหนึ่ง คุณจะต้องไม่ล้ำเขตคนอื่นเด็ดขาดเพราะอาจจะโดนเก็บเอาง่าย การใส่เสื้อต่างสีหรือ Throw gang sign คนล่ะอันกันก็เป็นเรื่องได้
จากนั้นเมื่อระบบของแก๊งนี้ก็เพิ่มความซับซ้อนขึ้น และเริ่มทำธุรกิจค้าขายยาเสพย์ติด ส่วนใหญ่จะเป็นคนเดินยาจะเป็นพวกเด็กที่หลอกใช้ให้ไปค้ายาโดยช้ำว่า ศักดิ์ศรี มาล่อ เด็กมีปัญหาที่ไร้การศึกษา และชอบความรุนแรง และก่ออาชญากรรมต่างๆ ทั้งนี้เพราะเวลาตำรวจจับก็จะไม่มีผลกระทบมากนัก
เรื่องอายุสมาชิก ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นอายุ 10-15 ปี ต่ำสุด 8 ปี นอกจากนี้สมาชิกก็จะมียศและตำแหน่งในแก๊งด้วย และนอกจากนี้ก็มีคนบงการหรือหัวหน้าที่จะค่อยให้ลูกน้องไปเก็บใครหรือปล่อยของถูกเรียกว่า OG หรือ Original gangster นั้นเองพวก OG นี้จะมีอายุระหว่าง 23-27 ที่ไม่เกินกว่านี้เพราะส่วนใหญ่สมาชิกที่อายุมากๆ จะเลิกลากันไป ไม่ก็ติดคุก หรือตายในขณะไม่ทันโตเป็นผู้ใหญ่
กฎของแก๊งค์นี้รุนแรงมาก คือเวลา MS 13 ทำพิธีรับน้อง ตามประเพณีคือน้องใหม่หรือคนที่จะเข้าต้องให้สมาชิกในแก๊งค์จํานวน5คนรุมกระเทือบจนครบ13+15วินาทีก่อนจึงจะเข้าได้ ซึ่งผลที่ได้ก็คือเกิด ศักดิ์ศรี ขึ้นในแก๊งค์ ประมาณว่าพวกนายแน่มาก เป็นตัวกระตุ้นเพื่อหลอกใช้งาน เช่น ไปฆ่ายา ไปยิงคน ไปฆ่าคน
แม้การหลอกใช้นี้เป็นเรื่องเหลวไหล แต่พวกนี้ก็ยอมตายเพื่อแก๊งของตัวเอง เวลาจะไปฆ่าแก๊งคนอื่น ก็จะรวมกลุ่มกัน และใช้อาวุธ ทั้งปืนทั้งระเบิด ฆ่าฟันกัน เน้นไปทางก่อความรุนแรงและอาชญากรรม
สัญลักษณ์ของการเป็นแก๊ง MS 13 ก็มีหลายแบบ เช่นพ่นสีใส่กำแพงเพื่อกำหนดอาณาเขตของตนเอง และการพ่นสีนี้ไม่ใช้พ่นกันเล่นๆ นะครับ บางครั้งก็ใส่รายละเอียดเหมือนกัน เช่นใส่ชื่อคน ว่างแปลว่าในพื้นที่นี้มีสมาชิกคนชื่อนี้ตาย และตายเมื่อไหร่ ตายอย่างไร คือสมาชิกคนไหนฆ่าใครไปแล้วบ้าง เป็นต้น
แล้วก็มีสัญลักษณ์อีกประเภทหนึ่งคือรอยสัก สมาชิกจะสักลวดลายต่างๆ บนร่างกาย เพื่อบ่งบอกว่าเป็นสมาชิก MS 13 โดยรอยสักนี้เป็นเหมือนกับใบประวัติ และตัวบอกเรื่องราวของสมาชิกนั้นๆ ด้วย เช่น ตนนี้ติดคุกกี่ครั้ง ติดคุกมากี่ปี ฆ่าคนไปเท่าไหร่ เข้าแก๊งเมื่อไหร่ มียศอะไร ตำแหน่งอะไร เป็นต้น
นอกจากนี้ก็ยังมีรหัสลับด้วย จากภาพเราจะเห็นแก๊งนี้ทำมือเหมือนคาราบาวแดง แต่ไม่ใช้คาราบาวหรอกนะครับ แต่เป็นเขาปีศาจ และเมื่อกลับหัวก็เป็นอักษรเอ็มนั้นเอง
ส่วนรหัสลับต่างๆ ก็มีอย่างเช่น ชี้นิ้วตนเองมาที่ท้องก็หมายความว่าให้สมาชิกคนอื่นใช้มีดเสียบม้องของศัตรู หรือทำมือรูปปืนก็ให้ใช้ปืนยิงเป็นต้น โดยแก๊งค์ MS13 มีศัตรูตัวฉกาจคือ 18th street
(**18th street แก๊งค์นี้ผู้อพยพก็มาจาก San Salvadorเมืองหลวงของซัลวาเดอร์(El salvado )ในทวีปอเมริกากลาง แล้วมีการรวมกลุ่มกันและแพร่เข้ามาใน L.A. โดยมีหน้าที่หลักคือ ขายยา(แต่กฏของแก๊งค์ จะไม่ขายยาให้สมาชิกหรือครอบครัวของตัวเองเพราะจะเป็นฆ่าตัวเอง) คุมพื้นที่ของตัวเอง และมีวิธีการรับน้องและการลงโทษของแก๊งค์เหมือนแก๊งค์อื่นๆ คือ รุมกระทืบ โดยมา ครอบครัวไหนที่เป็นสมาชิกแก๊งค์จะมีความผูกพันธ์ซึ่งกันและกัน เป็นกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ลูก หลาน ลุง น้องสาว พี่สาว ส่วนหัวหน้าใหญ่จะมีหรือไม่มีไม่มีใครทราบได้ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแย่งชิงอำนาจในแก๊งค์ นอกจากนี้แก๊งค์นี้จะปลูกฝังให้เกลียดแก๊งค์ MS 13 ถึงขั้นไล่ยิงกันทีเดียว )
ในวันนึงๆมีสมาชิกฆ่ากันตาย วันละหลายสิบคน บางวันตายกันเป็นร้อย บางทีตายหมูเป็นพันคน(ที่ตายเป็นพันนี้จะเกิดในแถบอเมริกากลางนะครับไม่ได้เกิดที่สหรัฐ)
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในแก๊งค์นี้คือ กฎค่อนข้างเข้มงวดและป่าเถื่อนมาก โดยเฉพาะถ้าสมาชิกคนไหนถูกจับได้ว่าทรยศจะถูกทรมาน รุมกระทิบ หรือไม่ก็ถูกฆ่า ถูกหั่นศพ ไปทิ้งกระจายตามที่ต่างๆ ถ้าทำงานผิดพลาดอาจโดนตัดนิ้ว ตัดมือ หรือ ทำให้พิการ บางคนถูกตัดอวัยวะเพศ แล้วโยนให้หมากิน(ใช้กับศัตรูด้วย)
นอกเหนือจากอเมริกา แก๊ง MS ก็ระบาดไปทั่วทวีปอเมริกากลาง ซึ่งประเทศเอลซัลวาดอร์มีมากที่สุด และนอกจากนั้นก็มีอีกกว่า 15 ประเทศที่เจริญๆ แล้วด้วย ล่าสุดมาถึงญี่ปุ่น ซึ่งเอเซียนั้นก็มีแก๊งค์ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชาติอื่นๆ เช่น Joe Boy,Tiny Raskal Gang,Asian Boyz,Viet boy Wah Ching XXIII, Vice Lords, Texas Syndicate, Bloods, Crips, Nazi Lowriders, Aryan Brotherhood
ส่วนหัวหน้าใหญ่หรือผู้บงการ ก็มีสองเสียงนะครับจากการสัมภาษณ์สมาชิกแก๊ง บางคนบอกว่า “มี” บางคนบอกว่า “ไม่มี” แต่ทางตำรวจบอกว่า “มี” แน่นอน แต่ค่อนข้างจะเป็นความลับ เพราะว่าถ้าเกิดเปิดเผยตัวหัวหน้าใหญ่อาจถูกฆ่าได้ ทำให้ต้องมีการปกปิดภายใน แต่อย่างไรก็ตามเชื่อกันว่าทุกวันนี้หัวหน้าใหญ่ของแก๊งค์บางทีอาจอยู่ในคุก และบงการจากในคุกเพื่อให้สมาชิกก่อความไม่สงบต่อโลกภายนอกก็ได้
ทางรัฐบาลก็ไม่อยู่เฉยนะครับ หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบก็จับตาดูพวกนี้อยู่เหมือนกัน โดยหน่วยงานICE (U.S. Immigration and Customs Enforcement) ซึ่งปัจจุบันICE มีเครือข่ายงานทั่วประเทศ 35 ทีมเพื่อทำหน้าที่จับกุมบุคคลผู้หลบหนีคดี ในปี 2006 งบประมาณให้เพิ่มเป็น 52 ทีมและปี 2007 เพิ่มเป็น 70 ทีม ปัจจุบันมีผู้หลบหนีคดีหรือ fugitive aliens ที่ยังอาศัยอยู่ในสหรัฐประมาณ 500,000 คน บุคคลเหล่านี้ถูกเนรเทศออกไปแล้ว แต่ลักลอบกลับเข้ามาอีก
วิธีการทำงานของหน่วยงานICE คือการออกปฏิบัติการกวาดล้างผู้อยู่อย่างผิดกฎหมาย เริ่มจากการค้นหาข้อมูลเป้าหมายอาทิเช่นการติดตามด้วยกล้องถ่าย การตามผู้ต้องสงสัยตามข้อมูลที่ได้รับมา รวมทั้งยังต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ร่วมด้วย เมื่อออกปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ต้องป้องกันอย่างดีทั้งสวมเสื้อเกราะกันกระสุน สวมถุงมือเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเข็มแทง,มีดบาดหรือรั้วลวดหนามที่จะต้องปีนป่ายข้ามเข้าไปในบ้าน.ที่อยู่เพื่อจับตัวผู้ต้องสงสัย
แต่ปัญหาก็คือเมื่อจับมาได้จะทำอย่างไรกับมันดี จะเอามันไปติดคุกมันก็ไปสร้างอิทธิพลในคุก จะส่งตัวกลับประเทศมันก็ไปสร้างอิทธิพลในประเทศของตนต่อไป จนการเป็นวัฏจักรที่น่ารังเกลียดที่ปราบยังไงก็ไม่หมดจนถึงปัจจุบัน
และนี้คือตัวอย่างคดีดังๆ ที่เกี่ยวกับ AS 13
- 13 กรกฎาคม2003 หญิงสาวชื่อ Brenda Paz ถูกพบเป็นศพที่ Shenandoah ใน เวสท์เวอร์จิเนีย สาเหตุการตายคือถูกแทง สันนิษฐานว่าเธอถูกฆ่าเพราะแจ้งข่าวกิจกรรมของ MS 13 ผลสุดท้ายคดีจบลงเมื่อเพื่อนเธอสี่คนถูกตัดสินความผิดฐานฆาตกรรม
- 23 ธันวาคม 2004 คดีนี้ถือว่าเป็นคดีดังมาก ที่ทำให้สังคมรู้จัก MS13 อย่างกว้างขวาง เหตุเกิดที่ Chamelecón ในออนดูรัส เมื่อรถบัสประจำเมืองถูกบังคับให้หยุด โดยการสกัดกั้นจากพวกแก๊งค์ MS13 และใช้ปืนอัตโนมัติกวดยิงผู้โดยสารในรถ ส่งผลให้ผู้โดยสารตายถึง 28 คน โดยส่วนมากเป็นผู้หญิง และเด็ก ก่อนที่จะมีการจับผู้ต้องสงสัยในเวลาต่อมา ทั้งหมดเป็นสมาชิก MS13 และบางคนถูกจำคุก ในขณะที่บางคนถูกปล่อยตัวเพราะไม่มีหลักฐานเอาผิด
- 13 พฤษภาคม 2006 นาย Ernesto "Smokey" Miranda อดีตทหารและสมาชิกระดับสูงหนึ่งในผู้ก่อตั้ง MS13 ถูกฆาตกรรมในบ้านของเขาเองตำแหน่งสูง ในเอลซัลวาดอร์ โดยชั่วโมงก่อนตายนั้นเขาได้ปฏิเสธคำเชิญงานสังสรรค์สำหรับสมาชิกแก๊งคนหนึ่งที่ปล่อยตัวจากคุก
- 22 มิถุนายน 2008, ในซานฟรานซิสโกแคลิฟอร์เนีย Edwin Ramos อายุ21 อดีตสมาชิก MS13 ได้ยิงฆ่า นาย Anthony Bologna อายุ 48 ปี และMichael อายุ 20 ปี, และMatthew อายุ 16 ปี ลูกชายสองคนของเขา บนรถที่ถนนแคบ
- 26 พฤศจิกายน2008 Jonathan Retana ถูกตัดสินในข้อหาฆ่า Miguel Angel Deras
- กุมภาพันธ์ 2009 ใน โคโลราโดและแคลิฟอร์เนีย มีการกวาดล้างแก๊ง MS13 ทำให้มีการจับสมาชิกได้ 20 คน รวมทั้งโคเคน ยาเสพย์ติดและอาวุธปืนจำนวนมาก
Credit : http://en.wikipedia.org/wiki/Mara_Salvatrucha+ +
วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ราศีใดอาภัพคู่ที่สุด ** มีน (14 มีนา - 12 เมษา) รองลงมาคือกันย์กับพิจิก ราศีใดเจ้าชู้ที่สุด ** ธนู (16 ธค - 15 มค) ราศีใดดุที่สุด ** มังกร (16 มค - 12 กพ) ราศีใดอารมณ์ศิลปินที่สุด ** กุมภ์ (13 กพ - 13 มีค) ราศีใดขี้หึงที่สุด ** เมษ (13 เมษา - 13 พ.ค) ราศีใดดื้อที่สุด ** สิงห์ (17 สค - 16 กย) ราศีใดร้ายลึกที่สุด ** พิจิก (16 พย - 15 ธค) ราศีใดอกหักซ้ำซากที่สุด ** ตุลย์ (17 ตค - 15 พย) รองลงมาคือสิงห์ ราศีใดมีโอกาสเบี่ยงเบนทางเพศที่สุด ** เมถุน (14 มิ.ย - 14 กค) ราศีใดมีความอดทนสูงที่สุด ** พฤษภ (14 พ.ค - 13 มิ.ย) ราศีใดหยิ่งที่สุด ** สิงห์ (17 สค - 16 กย) ราศีใดโรแมนติคที่สุด ** ตุลย์ (17 ตค - 15 พย) ราศีใดใจนักเลงที่สุด ** เมษ (13 เมษา - 13 พ.ค) ราศีใดรสนิยมแปลกที่สุด ** กุมภ์ (13 กพ - 13 มีค) ราศีใดมีความมั่นใจที่สุด ** มังกร (16 มค - 12 กพ) ราศีใดยิ่งแก่..ยิ่งรวยที่สุด ** มังกร (16 มค - 12 กพ) ราศีใดรักครอบครัวมากที่สุด ** กรกฎ (15 ก.ค - 16 ส.ค) ราศีใดขี้เหนียวที่สุด ** สิงห์ (17 สค - 16 กย) ราศีใดโลเลหลายใจที่สุด ** เมถุน (14 มิ.ย - 14 กค) ราศีใดมีความยุติธรรมที่สุด ** ตุลย์ (17 ตค - 15 พย) ราศีใดชอบหว่านเสน่ห์ที่สุด ** พฤษภ (14 พ.ค - 13 มิ.ย) ราศีใดขี้วีนที่สุด ** เมษ (13 เมษา - 13 พ.ค) ราศีใดมองโลกในแง่ดีที่สุด ** ธนู (16 ธค - 15 มค) ราศีใดรักอิสระที่สุด ** กุมภ์ (13 กพ - 13 มีค) รองลงมาคือ เมถุน ราศีใดมีเกณฑ์จะโหนคานมากที่สุด ** มีน (14 มีนา - 12 เมษา) ราศีใดมีเสน่ห์ที่สุด ** พิจิก (16 พย - 15 ธค) รองลงมาคือ ตุลย์ ราศีใดมีเหตุผลที่สุด ** มังกร (16 มค - 12 กพ)
วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
รูป av idols
http://ugraphics.blogspot.com/2009/10/asami-ogawa-japanese-actress-model.html
http://japaneseidol2010.blogspot.com/2010/01/japan-154-japan-cute-girl-rabbit.html
http://vcdxavdvd.blogspot.com/2009/10/blog-post.html
http://movie18plus.blogspot.com/2009/12/akiho-yoshizawa.html
http://clipdvd.blogspot.com/2009/11/blog-post.html
http://www.dooxxx.com/vids-naruto-hentai-anime-movie-xxx-animation.html
http://nangx.co.cc/xxx/category/%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%a5%e0%b9%84%e0%b8%99%e0%b9%8c/
http://teensclips.blogspot.com/2009/10/4.html
http://loadnanghot.blogspot.com/2010/01/japanese-party.html
http://doonung-x-online.blogspot.com/2009/11/pretty-waitress.html?zx=aafb773dcc4c61aa
http://โหลดหนังxฟรี.blogspot.com/2009/10/sex-seduction-ossessioni-perverse-697mb.html?zx=d7c5945611ad375
http://kissdragonz.blogspot.com/2008/10/blog-post_25.html?zx=6129e0953e12cb91
http://japaneseidol2010.blogspot.com/2010/01/japan-154-japan-cute-girl-rabbit.html
http://vcdxavdvd.blogspot.com/2009/10/blog-post.html
http://movie18plus.blogspot.com/2009/12/akiho-yoshizawa.html
http://clipdvd.blogspot.com/2009/11/blog-post.html
http://www.dooxxx.com/vids-naruto-hentai-anime-movie-xxx-animation.html
http://nangx.co.cc/xxx/category/%e0%b8%94%e0%b8%b9%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%a5%e0%b9%84%e0%b8%99%e0%b9%8c/
http://teensclips.blogspot.com/2009/10/4.html
http://loadnanghot.blogspot.com/2010/01/japanese-party.html
http://doonung-x-online.blogspot.com/2009/11/pretty-waitress.html?zx=aafb773dcc4c61aa
http://โหลดหนังxฟรี.blogspot.com/2009/10/sex-seduction-ossessioni-perverse-697mb.html?zx=d7c5945611ad375
http://kissdragonz.blogspot.com/2008/10/blog-post_25.html?zx=6129e0953e12cb91
วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552
เดธโน๊ต

ภาคแรก
ยางามิ ไลท์ นักเรียนมัธยมปลาย ซึ่งเป็นนักเรียนที่ฉลาดมากและเรียนดีติดอันดับ 1 ของประเทศ วันนึงเขาได้ไปพบ "บันทึกมรณะ" (เดธโน้ต) ของ ลุค ยมทูตผู้หนึ่งได้ในคืนที่ฝนตกหนัก ทำให้ได้รับความสามารถพิเศษ สามารถฆ่าคนได้ เพียงแค่รู้จักหน้าคนผู้นั้นแล้วเขียนชื่อลงไปในกระดาษของสมุดบันทึกเล่มนั้น ผู้ที่ถูกเขียนชื่อจะเกิดอาการหัวใจวาย เสียชีวิตภายในเวลา 40 วินาที ไลท์จึงตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงโลก โดยใช้เดธโน้ตฆ่าอาชญากร ผู้คนจึงขนานนามของผู้ฆ่า (ไลท์) ว่า "คิระ" (มาจากคำว่า killer ในภาษาอังกฤษ)
ไม่นานนักเรื่องนี้ก็บานปลาย อาชญากรพากันล้มตายจนเป็นจำนวนมาก องค์กรตำรวจโลก (ICPO) จึงจัดประชุมใหญ่ขึ้น ประณามการกระทำของ คิระ โดยมีนักสืบผู้แก้ไขคดีต่างๆ มาแล้วมากมายให้กับ ICPO มีนามแฝงว่า L ได้ปรากฏตัวขึ้น และ ประกาศว่า ผมได้เริ่มสืบสวนคดีนี้แล้ว โดยมี วาตาริ ผู้ที่สามารถ ติดต่อกับ L ได้คนเดียว เป็นผู้ช่วย โดย L เองได้ท้าทายคิระ และ วางแผน ล่อให้คิระฆ่าคน โดยใช้ Lind.L.Tailor นักโทษประหารมาหลอกว่าเป็น L และ กล่าวประนาม ว่าสิ่งที่ คิระทำอยู่นี้ เป็นสิ่งชั่วร้าย ทำให้ไลท์ (คิระ) โกรธมากและเขียนชื่อLind.L.Tailorจนหัวใจวายตายคาโทรทัศน์ แต่Lตัวจริงก็ปรากฏตัวออกมาโดยไม่ให้เห็นชื่อเห็นหน้าและกล่าวว่าคีระโดนหลอกแล้ว ทั้งคู่ต่างก็กล่าวออกมาพร้อมกันว่า ฉันจะหาตัวนายแลจัดการนายให้ได้เพราะฉันนี่แหละ ฝ่ายที่ถูกต้อง ไลท์พยายามหาทางกำจัด L ให้ได้เช่นกัน ทาง L ก็ได้ร่วมมือกับ ทีมงานตำรวจญี่ปุ่น ซึ่งนำโดย ยางามิ โซอิจิโร่ พยายามตามจับตัว พยายามสืบหาว่า "คิระ" คือใคร และ ใช้วิธีใดในการฆ่าคนเพียงแต่เห็นหน้าและทราบชื่อ โดยมี วาตาริ เป็นผู้ช่วย ระหว่างนี้ L ขอให้ทางสหรัฐฯ ส่ง FBI เข้ามาติดตามผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคิระ ทางด้านไลท์ได้ทดสอบใช้งานโน้ต จนทราบว่าสามารถที่จะกำหนดให้บุคคลเสียชีวิตด้วยเหตุอื่นๆ และสามารถกำหนดเวลาที่จะให้เสียชีวิตได้ด้วย จนในที่สุดสามารถใช้เดธโน้ตฆ่า FBI ที่เข้ามาได้ทั้งหมด ทำให้ L เริ่มมั่นใจว่า ไลท์ น่าจะเป็นคิระ และคอยดูไลท์อยู่เรื่อย ๆ
เมื่อถึงวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยของไลท์ Lก็ได้มาสอบด้วยและได้คะแนนเท่ากันทุกวิชา Lก็ได้ขอให้ไลท์เข้าทีมสืบสวนด้วย
แต่แล้วจู่ๆ ก็มีวีดีโอเทปถูกส่งมายังสถานีโทรทัศน์ ระบุว่าตนเองคือ "คิระ" โดยสามารถฆ่าคนได้ เพียงแค่รู้จักหน้าตาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทราบชื่อ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ไลท์พยายามหาทางติดต่อกับ คิระ คนนั้น จนในที่สุด ไลท์สามารถดึงตัว อามาเนะ มิสะคิระเบอร์ 2 มาเป็นพวกได้ในที่สุด เพราะมิสะเองได้หลงรักไลท์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยสาเหตุที่คิระได้ ฆาตกรรม คนที่สังหารพ่อแม่ของมิสะไว้ และยังช่วยชีวิตของมิสะไว้อีก ต่อมาไลท์เองพยายาม ทำให้มิสะเจอกับ L ให้ได้ ส่วน L เองก็เชื่อว่ามีคิระ 2 คน ดังนั้น L จึงออกมาพบกับไลท์เพื่อเฝ้าติดตามดูไลท์ตลอดเวลา เมื่อ L ออกมาพบกับไลท์ และบังเอิญเจอมิสะ L ได้พบพิรุธของมิสะ พร้อมกับพบหลักฐานบางส่วนที่มิสะใช้ทำวีดีโอเทปปลอม จึงจับกุมตัวมิสะในทันที ในฐานะคิระหมายเลข 2 ทำให้ไลท์ไม่สามารถใช้มิสะในการกำจัด L ได้ สุดท้าย เรม (ยมทูตที่ติดตาม มิสะ) ได้ยึดความเป็นเจ้าของโน้ตคืนจากมิสะ และ คิดจะฆ่าไลท์ หากไลท์ไม่สามารถช่วยมิสะออกมาได้ เหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้เอง ทำให้ไลท์ต้องวางแผนสุดท้ายในการกำจัด L โดยมีเรนมาช่วยด้วยอีกแรง โดยแผนการในครั้งนี้ ทำให้ไลท์ต้องเสียสิทธิ์ในการครอบครองเดธโน้ต ต้องกลับมาเป็นคนธรรมดา เพื่อช่วย L สืบหาตัวคิระ โดยให้เรน นำโน้ตของมิสะไปให้ หนึ่งในผู้บริหาร 8 คนของ บ.โยทสึบะ เพื่อเป็นคิระคนใหม่แทน มิสะ โดยเป็นตัวร่วมในแผนการของไลท์เองในครั้งนี้
การร่วมมือระหว่าง L กับ ไลท์ ในการตามจับตัวคิระ ดำเนินไปจนถึงขั้นสุดท้าย จนสามารถจับตัวคิระ หนึ่งในผู้บริหาร บ.โยทสึบะ และยึดโน้ตมาได้สำเร็จ จึงทำให้ L เห็นยมทูต และ รู้วิธีการฆ่าในที่สุด เมื่อไลท์ได้แตะโน้ตอีกครั้ง ทำให้ความทรงจำคืนมาทั้งหมด และ แอบเขียนโน้ตที่ซ่อนไว้ในนาฬิกา ฆ่าคิระ (ผู้บริหาร บ.โยทสึบะ) เพื่อปิดปาก โดยแม้ว่าหลักฐานจะสรุปว่าคิระได้ตายไปแล้ว แต่ L ก็ไม่ลดละความพยายามในการพิสูจน์ว่า ไลท์ คือ คิระ และ มิสะ คือ คิระหมายเลข 2 ทำให้ เรม ซึ่งกลัวว่ามิสะจะต้องถูกจับในฐานะคิระหมายเลข 2 ต้องทำอะไรบางอย่างในที่สุด ซึ่งก็คือการที่เรมได้เขียนชื่อของวาตาริและ L ลงไปในเดธโน้ต เมื่อเป็นการต่อชีวิตให้กับมนุษย์ เรมจึงต้องตาย โดยทุกคนหารู้ไม่ว่า ทุกอย่างเป็นแผนการทั้งหมดของไลท์ที่วางไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
เมื่อถึงวันหนึ่ง L และวาตาริก็ได้จากไปด้วยอาการหัวใจวายตาย
ภาคสอง
หลังจาก L และ วาตาริ ตายไปไม่นาน เครื่องคอมพิวเตอร์ของ วาตาริ ได้ทำการส่งข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคดีคิระไปที่แห่งนึงซึ่งนั่นก็คือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งก่อตั้งโดย ควิลล์ แวมมี่ เป็นเจ้าของ และมี โรเจอร์ เป็นผู้ดูแลอยู่ ก็ทำให้ทราบว่า วาตาริ เป็นเจ้าของบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้นั่นเอง เนียร์ และ เมลโล ก็อยู่ในระหว่างการคัดเลือกว่า ใครจะมาแทน L ซึ่ง เมลโล รู้ตัวว่าเป็นรอง เนียร์ จึงออกจากบ้านเด็กกำพร้า และหาทางสืบเรื่องคิระ ตามวิธีของตน เพื่อที่จะแสดงให้คนอื่นเห็นว่า ตนเองมีความสามารถ และไปเข้ากับพวกองค์กรมาเฟียระดับโลก โดยยื่นเงื่อนไขในการจัดการคิระให้ เพื่อพวกมาเฟียจะไม่ถูกคิระเขียนชื่อลงในเดธโน้ต ส่วนทาง เนียร์ ได้นำข้อมูลทั้งหมดไปให้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และขอให้จัดสรรทีม SPK (Secret Provision For Kira) เพื่อสืบคดีคิระต่อ ยางามิ ไลท์ ก็สืบทอดตำแหน่งการตามจับคิระต่อไปในร่างของ L โดยเข้าไปทำงานด้านข้อมูลของกรมตำรวจ
ทางเมลโลกับพวกมาเฟีย จับ ผบตร. ของญี่ปุ่นมา เพื่อสอบถามข้อมูลของเดธโน้ต แต่ ผบตร.ก็ตายด้วยน้ำมือของไลท์ ต่อมาเมลโลวางแผนจับตัว ยางามิ ซายุ มาต่อรองการแลกโน้ตจาก ยางามิ โซอิจิโร่ หลังจากเมลโลแลกโน้ตกับซายุแล้ว ได้ทำการศึกษาเดธโน้ต และเริ่มทดลองการใช้โน้ต ระหว่างนี้ทางเนียร์เองได้ติดต่อกับ L หมายเลข 2 (ยางามิ ไลท์) เพื่อร่วมกันแย่งเดธโน้ตคืนจากเมลโล สุดท้ายได้รับความร่วมมือจาก ชีโดว์ ยมทูตซึ่งเป็นเจ้าของโน้ตเล่มแรกที่แท้จริง (โน้ตที่ได้จากลุคเล่มแรก) โดยการแย่งคืนโน้ตครั้งนี้ แม้ว่าจะสามารถแย่งโน้ตคืนมาได้ รวมถึงรู้ชื่อที่แท้จริงของเมลโล แต่ก็ต้องทำให้พ่อของไลท์ (ยางามิ โซอิจิโร่) ต้องเสียชีวิตไป และ เมลโล ก็หนีไปได้
ต่อมาไม่นาน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสียชีวิตลงโดยฝีมือของ คิระ เหตุการณ์นี้ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ล้มเลิกความคิดที่จะสืบหาตัวคิระ และมายืนอยู่ฝ่ายเดียวกับคิระจนทำให้หน่วย SPK ของเนียร์ต้องถูกปิดลง แต่ทางเนียร์กับพวกที่เหลืออีก 3 คนต่างไม่ยอมล้มเลิกการตามหาตัวคิระ และได้ใช้เงินกองทุนของ L ในการดำเนินการสืบหาคิระต่อไป ต่อมาเมลโลได้ติดต่อกลับมาทางเนียร์ผ่านทาง ริโดน่า สมาชิก 1 ใน 3 ของ SPK ที่ยังทำงานกับเนียร์ และเล่าเรื่องเดธโน้ตที่รู้ให้เนียร์ฟังก่อนจะจากไป ในตอนนั้นเนียร์เองก็เริ่มสงสัยในตัวไลท์ หรือ L หมายเลข 2 โดยเริ่มติดต่อกับคนในทีมของไลท์ 2 คน คือ โมงิ กับ ไอซาวะ และอนุญาตให้โมงิมาพบเนียร์ได้ ตอนนั้นไลท์ซึ่งต้องการจัดการเนียร์อยู่แล้ว จึงซ้อนแผนไปอีกทีหนึ่ง ทำให้ที่อยู่ของเนียร์ถูกค้นพบและถูกทำลายลง แต่เนียร์และสมาชิกทีม SPK ทั้ง 3 คน ก็หนีรอดออกมาได้
การกระทำและการเฝ้าจับตาดู L หมายเลข 2 ของเนียร์ ทำให้ไลท์ทำหน้าที่คิระไม่ได้ และจำเป็นต้องหาตัวแทนขึ้นมา สุดท้ายจำเป็นต้องเลือก มิคามิ เทรุ มาเป็นตัวแทนคิระ มิคามิยอมแลกเปลี่ยนดวงตายมทูต เพราะศรัทธาในตัวคิระเมื่อตอนที่โฆษกซากุระทีวีตาย มิคามิได้เลือกโฆษกคนใหม่ ซึ่งก็คือ ทาคาดะ คิโยมิ แฟนของไลท์สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อไลท์ได้พบกับทาคาดะ ก็แสดงความรักต่อทาคาดะ และสารภาพกับทาคาดะไปว่าเขาคือ คิระ ทางทาคาดะเองซึ่งศรัทธาในการกระทำของคิระอยู่แล้ว บวกกับชอบพอในตัวไลท์มาก่อน ก็ตอบตกลงช่วยเหลือไลท์ในทันที ซึ่งทำให้ไลท์สามารถใช้งานทาคาดะ เป็นตัวกลางระหว่างติดต่อกับมิคามิ โดยทุกครั้งที่ไลท์นัดเจอกับทาคาดะ ไลท์จะติดเครื่องดักฟังเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ในทีมคนอื่นสงสัย แต่อาศัยการเขียนความต้องการลงในกระดาษเพื่อเป็นการสื่อสารกับทาคาดะแทน
ทาคาดะ ซึ่งเป็นคนเดียวที่สามารถติดต่อกับคิระได้ ทำให้เธอมีสิทธิ์อยู่เหนือคนธรรมดาทั่วไป ในเวลานั้นทางมิคามิเองก็ฆ่าคนอื่นไปตามคำสั่งของไลท์ ที่ส่งผ่านมาทางทาคาดะ ต่อมาทาคาดะได้จ้างบอดี้การ์ด 4 คนเพื่อคุ้มกันตัวเธอเองหนึ่งในนั้นคือ ริโดน่า สมาชิก SPK ซึ่งทาคาดะไม่รู้ว่าเนียร์ส่งริโดน่าให้มาจับตาดูเธอ ส่วนทางไอซาว่า ที่ติดต่อกับเนียร์ ก็เริ่มจับตาดูไลท์เป็นระยะ และเริ่มมั่นใจว่าไลท์คือคิระ แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้
ทางเนียร์เริ่มสงสัยในตัวมิคามิ และสั่งให้เจวานนี่ตามเฝ้ามิคามิตลอด จนในที่สุดเจวานนี่สามารถเข้าถึงเดธโน้ตที่อยู่ในมือมิคามิได้สำเร็จ และถ่ายรูปข้อความทั้งหมดในเดธโน้ตกลับมาให้เนียร์ แต่หลักฐานนั้นยังไม่พอที่จะสาวไปถึงตัวไลท์ได้ เพราะไลท์ไม่ได้ติดต่อกับทางมิคามิโดยตรง มีทางเดียวคือต้องให้ไลท์เป็นคนยอมรับเองว่าเป็นคิระ ทางเนียร์จึงให้เจวานนี่ติดตามมิคามิต่อไป รวมถึงตัวเองก็คิดหาทางจัดการกับคิระไปด้วย โดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดอยู่ในแผนของไลท์ ที่วางเอาไว้แล้ว
เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว และมั่นใจเต็มที่ว่าไลท์คือคิระ ทางเนียร์จึงได้นัดกับไลท์ออกมาพบกันเพื่อมาพิสูจน์ในครั้งสุดท้าย ส่วนไลท์เองก็หาโอกาสกำจัดเนียร์มานาน ในเมื่อเนียร์เป็นฝ่ายนัดมาเองก็ยินดียิ่ง เพราะจะเป็นโอกาสจัดการทุกคนในทีเดียว โดยจะเจออีกครั้งใน 3 วันให้หลัง โดยเนียร์จะพาทีม SPK ซึ่งประกอบด้วย เลสเตอร์ โจวานนี่ และริโดน่า ไปทั้งหมด และไลท์เองก็พาทีมอันประกอบด้วย โมงิ ไอซาว่า อิเดะ และ มัตสึดะ ทั้งหมด ไปนัดเจอกันที่โกดังร้างแห่งหนึ่ง เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้ว ต่างก็ยุติการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น
แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเมลโลลักพาตัวทาคาดะไป แต่ท้ายที่สุด เมลโลก็ต้องตายโดยฝีมือของทาคาดะ โดยทาคาดะเขียนชื่อจริงของเมลโลลงในเศษกระดาษเดธโน้ต ที่ไลท์ได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้ (ไลท์ ได้เคยบอกชื่อ และให้ดูรูปตอนเด็กของ เมลโล แก่ ทาคาดะ ไว้ก่อนแล้ว) หลังจากทราบว่าเมลโล ได้ตายแล้ว ไลท์ต้องการทำลายหลักฐานทั้งหมด ระหว่างเดินทางไปรับตัวทาคาดะ จึงได้เขียนชื่อทาคาดะลงเดธโน้ต และใส่สาเหตุการตายว่าฆ่าตัวตาย โดยการเผาร่างตัวเองพร้อมวัตถุใกล้ตัว แม้จะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้การนัดพบของทั้งเนียร์และไลท์ต้องยกเลิก เพราะต่างฝ่ายต่างวางแผนของตนไว้อย่างดีแล้ว
เมื่อถึงวันนัด ทั้งสองมาพบกัน ต่างฝ่ายก็มั่นใจว่าต่างเตรียมตัวมาดีแล้ว สุดท้ายแผนการเปิดโปงตัวจริงของคิระจากเนียร์ ที่วางไว้ถูกซ้อนแผนโดยไลท์ โดยมีมิคามิเป็นตัวร่วมในครั้งนี้ และการตายของเมลโลในคราวนั้น กลับช่วยเนียร์ซ้อนแผนกลับไปที่ไลท์ได้อีกครั้ง และช่วยทำให้ทุกคนรอดตายจากน้ำมือของไลท์ได้ในที่สุด
หลังจากถูกเปิดโปงได้ว่าไลท์คือคิระ ทำเอาไลท์พยายามหาทางเกลี้ยกล่อมคนที่เหลือ และหาวิธีกำจัดเนียร์ ส่วนมิคามิก็ถูกรวบตัวไป เมื่อรวบรวมสติได้ไลท์ ก็ตั้งใจจะเขียนชื่อเนียร์ลงบนเศษของโน้ตที่ซ่อนอยู่ในนาฬิกา แต่มัตสึดะเห็นเสียก่อนจึงยิงปืนใส่ไลท์ แล้วบอกว่า "ไลท์เป็นคนทำให้พ่อของตัวเอง (ยางามิ โซอิจิโร่) ตาย" มัตสึดะจึงยิงไลท์เข้าไปหลายนัดจนไลท์หมดสภาพ พยายามดิ้นรนขอให้ มิคามิเขียนชื่อพวก SPK แต่มิคามิถูกจับอยู่ แถมโน้ตที่อยู่กับตัวก็เป็นของปลอม มิคามิจึงเจาะเอาเลือดของตัวเองมาเขียนลงเศษเดธโน๊ตของไลท์แต่ไม่สำเร็จ ความดันเลือดที่มากขนาดนี้ทำให้เขาตาย ไลท์เดินโซซัดโซเซหนีไปได้สักระยะหนึ่งแล้วก็ถูกลุคฆ่าตายด้วยเดธโน๊ต
ผ่านมาเป็นเวลา 1 ปี โลกกลับสู่สภาพเดิมก่อนที่จะมีคิระมาพิพากษา ไอซาว่า ได้เป็น ผ.บ. เนียร์ได้เป็น L โรเจอร์ได้เป็นวาตาริ และทำการสืบคดีเรื่องการค้ายาเสพติด ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเป็นปกติ โดยก่อนหน้านั้นเนียร์ได้เผาโน้ตที่มีอยู่ทั้งหมดทิ้ง แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีกลุ่มคนที่ยังคิดว่า คิระแค่หยุดพักไปเท่านั้น และยังเชื่อกันอยู่ว่าสักวันคิระจะกลับมา
จบเนื้อหาส่วนที่เสียอรรถรสแล้ว ข้อความด้านบนนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ
ตัวละคร
ไลท์ ยางามิ(「夜神 月」, Yagami Raito, 夜神 月?)(วันเกิด 28 กุมภาพันธ์ 1986)
(ชื่อสมมุติในเรื่องคือ คิระ และสวมบทเป็น L รุ่นที่ 2) ตัวเอกของเรื่อง เป็นนักเรียนมัธยมปลายผู้เบื่อหน่ายและเสื่อมศรัทธาต่อความยุติธรรมในโลก เมื่อเขาเก็บเดธโน้ตได้ จึงตั้งใจที่จะกำจัดคนชั่ว เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ตามความคิดของตน ภายหลังเมื่อมีคนมาขัดขวางก็หาทางกำจัดศัตรูทางความคิดของตนด้วย เนื่องจากความตั้งใจของไลท์ที่จะทำให้สำเร็จ จึงไม่ได้คำนึงว่าบุคคลเหล่านั้นจะเป็นใคร แม้แต่พ่อของตนเอง
L (L. Lawliet) (「エル・ローライト」, Eru Rōraito, エル・ローライト?) (วันเกิด 31 ตุลาคม 1979)
(แอล หรือชื่ออื่นคือ ริวซากิ และ ริวงะ) เป็นนักสืบที่มีอายุมากกว่าไลท์7ปี และยังมีความสามารถเหนือกว่าไลท์เกือบทุกด้าน มีความสามารถในการสืบสวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นนักสืบอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งสามารถสั่งการ FBI และตำรวจทั่วโลก ได้ และมีความคิดว่า สิ่งที่คิระทำเป็นสิ่งที่ผิด จึงหาทางจับตัวคิระ จนกระทั่งสงสัยว่าไลท์คือ "คิระ" แต่ถูกไลท์ชิงกำจัดได้ก่อนโดยหลอกใช้ "เรม" (ในเล่ม 13 How to Read ที่ออกจำหน่าย วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2549 ชื่อจริงของแอลได้ถูกเปิดเผยขึ้นว่า L Lawliet หรือ แอล ลอว์ไลท์ โดยชื่อของแอลนั้นถูกตั้งให้ตรงกันข้ามกับชื่อของไลท์)
ชื่อของ L อ่านในภาษาไทยว่า แอล ในขณะที่ภาษาอังกฤษอ่าน เอล ตามตัวอักษร L และภาษาญี่ปุ่นอ่าน เอะรุ (เนื่องจากภาษาญี่ปุ่นไม่มี ล ลิง)
วาตาริ (Quill Wammy)(「ワタリ」, Watari หรือ Quillsh Wammy, ワタリ?)
เป็นผู้ก่อตั้งบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ชื่อ Wammy's House ที่ L เนียร์ และเมลโลเคยอยู่
โรเจอร์ (Roger Ruvie)(ロジャー・ラヴィー, Rojā Ravī)
เป็นผู้สืบทอดชื่อของวาตาริ และเป็นวาตาริของเนียร์ที่เป็นผู้สืบทอด L
ยมทูตลุค (「リューク」, Ryūku, リューク?)
ยมทูตที่ชอบกินแอปเปิลของโลกมนุษย์ เบื่อชีวิตซ้ำซากในยมโลก อยากจะทำอะไรสนุกๆ จึงนำเดธโน้ต มาทิ้งไว้ที่โลกมนุษย์ ซึ่งผู้ที่เก็บได้ก็คือ "ไลท์" ตอนหลังก็ได้ฆ่าไลท์ไป
อามาเนะ มิสะ (「弥 海砂」, Amane Misa, 弥 海砂?)
เด็กสาวไอดอลผู้หลงรักไลท์อย่างโงหัวไม่ขึ้น ถึงกับยอมแลก ดวงตายมทูต จาก เรม และ ลุค ด้วยอายุขัยครึ่งหนึ่งของตน เพื่อช่วยทำงานให้ไลท์ และต่อมามิสะได้เป็นคิระหมายเลข 2และตอนหลังได้หายตัวไป
ยมทูตเรม (Rem)
ยมทูตที่ติดตาม "มิสะ" ภายหลัง เพื่อช่วยมิสะจากแผนการที่ไลท์วางไว้ จึงยอมสละชีวิตตัวเอง ฆ่า L และ วาตาริ
ยางามิ โซอิจิโร่ (Yagami Soichiro)
เป็นพ่อของไลท์และเป็นหัวหน้ากองสืบสวนญี่ปุ่น (NPA) โซอิจิโร่ได้สืบสวนคดีคิระจนกระทั่งตนเองได้ตายเพราะถูกสมาชิกแก๊งมาเฟีย (พวกของเมลโล) ยิง และถูกระเบิดซ้ำอีก ในตอนที่พบกับเมลโลนั้นถูกหยามไว้ว่า "นายน่ะ ไม่เคยฆ่าคนใช่มั้ยล่ะ คงทำไม่ลงหรอก" ซึ่งก็เป็นความจริง โซอิจิโร่เสียชีวิตที่ รพ.แห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนั้น ไลท์ที่อยู่ข้างเตียงก็ได้แต่บอกให้โซอิจิโร่เขียนชื่อจริงของเมลโลลงในเดธโน้ต แต่โซอิจิโร่สิ้นใจก่อนที่จะเขียน และโซอิจิโร่เชื่อว่าไลท์ไม่ได้เป็นคิระ เพราะโซอิจิโร่ที่มีดวงตายมทูต ยังคงสามารถเห็นอายุขัยของไลท์ (โดยปกติแล้ว ผู้ที่มีดวงตายมทูตจะมองไม่เห็นอายุขัยของผู้ที่ครอบครองเดธโน้ต)
มิคามิ เทรุ (Mikami Teru)
เมื่อไลท์ถูกจับตามอง จนไม่สามารถเคลื่อนไหวในชื่อ "คิระ" ได้ จึงได้เลือก มิคามิ มาเป็นผู้ทำหน้าที่แทนไลท์ มิคามิยอมแลกอายุขัยตัวเองครึ่งหนึ่งกับดวงตายมทูต และเลือก ทาคาดะ เป็นโฆษกรายการทีวีของคิระ หลังจากที่มิคามิถูกพวก SPK จับกุมตัวในคุก 10 วันต่อมา เขาก็ตายในคุก
ทาคาดะ คิโยมิ (Takada Kiyomi)
แฟนของไลท์สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกรายการทีวีของคิระ ซึ่งไลท์ก็นำเอาความหลังมาหลอกใช้ แต่ในที่สุดทาคาดะก็ตายเพราะอายุขัยลดลงเนื่องจากใช้ดวงตายมทูต
เมลโล (Mihael Keehl)
อยู่สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า Wammy's House เหมือนกันกับ L และ เนียร์ แต่ความสามารถไม่เป็นรอง เนียร์ (เพียงแต่ขาดความเยือกเย็นที่เนียร์มี แต่ก็ได้ความกระตือรือร้นมาทดแทนในสิ่งที่เนียร์ขาดไป) จึงพยายามออกมาเพื่อที่จะแสดงให้คนอื่น เห็นว่าตัวเองนั้น เหนือกว่าเนียร์ ภายหลังเมลโลก็เสียชีวิตเพราะถูกทาคาดะฆ่าด้วยการเขียนชื่อ Mihael Keehl ลงในเดธโน้ต (ทาคาดะรู้ชื่อจริงของเมลโลจากไลท์ และไลท์ก็รู้ชื่อจริงของเมลโลจากพ่อของไลท์อีกต่อหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้น พ่อของไลท์มีดวงตายมทูต จึงรู้ชื่อจริงของเมลโลได้) หากไม่มี เมลโล เนียร์อาจจะแพ้ให้แก่คิระในศึกสุดท้ายก็เป็นได้ (ระหว่าง L เนียร์ และเมลโล มีแต่เมลโลเท่านั้นที่ไม่เคยเจอคิระหรือไลท์เลย)
เนียร์ (Nate River)
เป็นผู้มาแทนแอล หรือผู้สืบทอด L ตัวจริง เมื่อแอลตายไปแล้ว เนียร์ก็ได้แอบสืบข้อมูลอย่างลับๆ จนได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และได้เข้าร่วมสืบสวนกับ SPK จนสามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของคิระ และเอาชนะคิระได้ โดยที่ตนเองก็เกือบจะไม่รอดเหมือนกัน เพราะเกือบถูกคิระเขียนชื่อจริงของเนียร์ ลงในเศษกระดาษเดธโน้ต
แม็ตต์ (Matt หรือ Mail Jeevas)
เป็นเพื่อนกับเมลโล อยู่กับเมลโลมาตลอด หลังจากที่กลุ่มมาเฟียที่เมลโลอยู่ด้วยตายหมด และเป็นคนช่วยประสานงานในการหาตัวคิระ แต่ตายเพราะโดนตำรวจญี่ปุ่นยิงหลังจากที่เมลโลลักพาตัวทาคาดะ คิโยมิไป
ยมทูตชีโดว์
ยมทูตที่ถูก ลุค หลอกเอาเดธโน้ตมาทิ้งไว้บนโลก ชีโดว์ พยายามที่จะเอาเดธโน้ตของตนคืน จึงโดนพวกเมลโลหลอกใช้ ซึ่งก็ได้ทำให้แผนการที่ไลท์วางไว้ ผิดพลาดไปอย่างมาก
เดธโน้ต
"เดธโน้ต" (Death Note) หรือ "บันทึกมรณะ" เป็นสมุดที่มียมทูตเป็นเจ้าของโดยมีอำนาจในการฆ่าผู้คนตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยถ้าไม่กำหนดสาเหตุการตาย ผู้ตายจะตายด้วยโรคหัวใจ ในการ์ตูนเรื่องนี้จะมีเดธโน้ตปรากฏมาสามเล่ม โดยเป็นของยมทูตลุค ยมทูตชีโดว์ และยมทูตเรม
เดธโน้ตของชีโดว์จะมีคำอธิบายการใช้งานไว้เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งลุคเชื่อว่าเป็นภาษาที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก โดยได้เขียนกฎไว้ดังนี้ (ถ้าใน How to Read ในฉบับการ์ตูนจะกฎบางส่วนที่ไม่ได้ถูกเขียนไว้เพิ่มเข้ามาอีก)
ใครก็ตามที่ถูกเขียนชื่อลงในสมุดเล่มนี้จะต้องตาย
เดธโน้ตจะส่งผลเฉพาะต่อคนที่ถูกเขียนชื่อ
ถ้าไม่ระบุสาเหตุการตาย คนที่ถุกเขียนชื่อจะตายด้วยอาการหัวใจวายทั้งหมด
แต่ถ้าหากจะลงรายละเอียดการตายไว้ จะมีเวลาให้ 6 นาที 40 วินาทีเพื่อลงรายละเอียดสภาพการตาย
ในกรณีที่ระบุวิธีการตายหากเขียนชื่อ คนมากกว่าหนึ่งคนในสถานการณ์เดียวกันหรือ เหตุการณ์เดียวกัน จะไม่เป็นตามที่ระบุไว้ แต่คนที่ถูกเขียนชื่อจะตายเพราะหัวใจวาย
ยมทูตไม่สามารถบอกอายุขัยของมนุษย์ที่ครอบครองเดธโน้ต
ผู้ที่ใช้เงื่อนไขดวงตายมทูตไม่สามารถมองอายุขัยของตัวเองได้
ถ้าเขียนสาเหตุการตายไว้ล่วงหน้าสามารถเติมชื่อทีหลังได้
ยมทูตไม่สามารถให้เดธโน้ตกับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
เดธโน้ตไม่สามารถฆ่าคนที่มีอายุต่ำกว่า 124 วันได้
ผู้ใดที่สัมผัสเดธโน้ต คนๆ นั้นจะเห็นและได้ยินเสียงของยมทูต ถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าของเดธโน้ตก็ตาม
ผู้ที่ครอบครองเดธโน้ตสามารถแลกดวงตาของตัวเองกับดวงตาของยมทูตได้ โดยแลกกับอายุขัยครึ่งหนึ่งของตน
หากถอนการครอบครองสิทธิ์จากเดธโน้ต จะเสียความทรงจำเกี่ยวกับเดธโน้ตไปทั้งหมดรวมถึงความสามารถของดวงตายมทูตด้วย โดยมิได้รับอายุขัยที่เสียไปกลับคืนมา
เมื่อมนุษย์คนใดได้รับเงื่อนไขดวงตายมทูต สายตาจะเกิน 3.6
ยมทูตต้องมีเดธโน้ตครอบครองมากกว่า 1 เล่ม
ยมทูตมีทั้งเพศชายและหญิงแต่ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้
ยมทูตสามารถตายได้โดย
ต่อชีวิตให้มนุษย์ที่ถึงอายุขัยแล้ว
ลืมเขียนเดธโน้ตเกินอายุขัยของตัวเอง
ยมทูตไม่สามารถดูอายุขัยของคนอื่นและตัวเองได้
หน้ากระดาษเดธโน้ตไม่มีวันหมด
ใช้อะไรในการเขียนเดธโน้ตก็ได้แต่ต้องเขียนเป็นคำ
ถ้าฉีกกระดาษเดธโน้ตมาส่วนหนึ่งก็สามารถฆ่าคนได้เหมือนกัน
เดธโน้ตจะไม่มีผลเมื่อไม่มีคนชื่อนั้น
แต่ถ้าหากสัมผัสเดธโน้ตอีกคร้ง ความจำก็จะกลับมา ถึงแม้ไม่ใช่เล่มที่ตนเป็นเจ้าของก็ตาม แต่ถ้าเล่มนั้นมีเจ้าของอยู่ ความทรงจำจะกลับมาเมื่ออยู่สมุดอยู่ในมือเท่านั้น โดยฆ่าเจ้าของเดิมเสียก่อนความทรงจำถึงจะกลับมาอย่างถาวร
หากถูกเขียนชื่อลงไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไร คนๆนั้นก็ต้องตาย
หากเขียนชื่อลงไปแล้วไม่สามารถแก้ไขได้
ผู้ที่ใช้เดธโน้ตจะไม่ได้ขึ้นทั้งสวรรค์หรือแม้แต่จะลงนรก
ดวงตายมทูต
ดวงตายมทูตเป็นดวงตาที่มีพลังพิเศษของยมทูต ซึ่งจะสามารถมองเห็นชื่อและอายุขัยที่เหลืออยู่ของมนุษย์ได้ โดยยมทูตจะใช้ดวงตานี้เพื่อหาชื่อของมนุษย์และฆ่า เพื่อที่จะทำให้อายุขัยที่เหลืออยู่ของมนุษย์เป็นของตน ซึ่งการที่มนุษย์จะได้ความสามารถนี้มา ก็ต้องแลกด้วยอายุขัยครึ่งหนึ่งของที่เหลืออยู่ของตนเอง เช่น คนที่มีอายุขัยรวม 70 ปี เมื่ออายุครบ 20 ปี ก็เท่ากับว่าคนผู้นั้นจะมีอายุขัยเหลืออยู่อีก 50 ปี หากทำการแลกเปลี่ยนดวงตายมทูตในช่วงนี้ อายุขัยที่จะต้องเสียไปก็คือ 50÷2 เท่ากับ 25 ปี
ตัวละครที่เคยแลกเปลี่ยนดวงตายมทูต
อามาเนะ มิสะ (Kira No.2) ทำการแลกเปลี่ยนไป 2 ครั้ง ครั้งแรกแลกกับเรม ต่อมาแลกกับลุค
ฮิงูจิ เคียวสึเกะ (Kira No.3) ได้โน้ตมาจากเรม เพราะเรมไม่อยากให้มิสะโดนโทษประหาร
คาล สไนเดอร์
ยางามิ โซอิจิโร่ (แลกเปลี่ยนกับลุคเพื่อดูชื่อจริงของเมลโล่)
มิคามิ เทรุ (Kira No.4 หรือ X-Kira)
ผู้ที่แตะเดธโน้ต
ยมทูตทุกตน
ยางามิ ไลท์ (Kira)
ยางามิ โซอิจิโร่
L (แอล)
อามาเนะ มิสะ (Kira No.2)
ตำรวจที่ทำงานเกี่ยวข้องกับLทุกคน
เมลโล่
เนียร์
ฮิงูจิ เคียวสึเกะ (Kira No.3) ได้โน้ตมาจากเรม เพราะเรมไม่อยากให้มิสะโดนโทษประหาร
คาล สไนเดอร์
มิคามิ เทรุ (Kira No.4 หรือ X-Kira)
เจวานนี่ (ลูกน้องเนียร์ แอบสลับเปลี่ยนเดธโน้ตของ มิคามิ)
ทาคาดะ คิโยมิ (นักข่าว NHN ทำรายการอาณาจักรคิระ ช่องซากุระทีวี)
หมายเหตุ โจรปล้นรถเมล์ (ปรากฏในหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 1 และ 2) ได้แตะแค่กระดาษ
ยางามิ ไลท์ นักเรียนมัธยมปลาย ซึ่งเป็นนักเรียนที่ฉลาดมากและเรียนดีติดอันดับ 1 ของประเทศ วันนึงเขาได้ไปพบ "บันทึกมรณะ" (เดธโน้ต) ของ ลุค ยมทูตผู้หนึ่งได้ในคืนที่ฝนตกหนัก ทำให้ได้รับความสามารถพิเศษ สามารถฆ่าคนได้ เพียงแค่รู้จักหน้าคนผู้นั้นแล้วเขียนชื่อลงไปในกระดาษของสมุดบันทึกเล่มนั้น ผู้ที่ถูกเขียนชื่อจะเกิดอาการหัวใจวาย เสียชีวิตภายในเวลา 40 วินาที ไลท์จึงตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงโลก โดยใช้เดธโน้ตฆ่าอาชญากร ผู้คนจึงขนานนามของผู้ฆ่า (ไลท์) ว่า "คิระ" (มาจากคำว่า killer ในภาษาอังกฤษ)
ไม่นานนักเรื่องนี้ก็บานปลาย อาชญากรพากันล้มตายจนเป็นจำนวนมาก องค์กรตำรวจโลก (ICPO) จึงจัดประชุมใหญ่ขึ้น ประณามการกระทำของ คิระ โดยมีนักสืบผู้แก้ไขคดีต่างๆ มาแล้วมากมายให้กับ ICPO มีนามแฝงว่า L ได้ปรากฏตัวขึ้น และ ประกาศว่า ผมได้เริ่มสืบสวนคดีนี้แล้ว โดยมี วาตาริ ผู้ที่สามารถ ติดต่อกับ L ได้คนเดียว เป็นผู้ช่วย โดย L เองได้ท้าทายคิระ และ วางแผน ล่อให้คิระฆ่าคน โดยใช้ Lind.L.Tailor นักโทษประหารมาหลอกว่าเป็น L และ กล่าวประนาม ว่าสิ่งที่ คิระทำอยู่นี้ เป็นสิ่งชั่วร้าย ทำให้ไลท์ (คิระ) โกรธมากและเขียนชื่อLind.L.Tailorจนหัวใจวายตายคาโทรทัศน์ แต่Lตัวจริงก็ปรากฏตัวออกมาโดยไม่ให้เห็นชื่อเห็นหน้าและกล่าวว่าคีระโดนหลอกแล้ว ทั้งคู่ต่างก็กล่าวออกมาพร้อมกันว่า ฉันจะหาตัวนายแลจัดการนายให้ได้เพราะฉันนี่แหละ ฝ่ายที่ถูกต้อง ไลท์พยายามหาทางกำจัด L ให้ได้เช่นกัน ทาง L ก็ได้ร่วมมือกับ ทีมงานตำรวจญี่ปุ่น ซึ่งนำโดย ยางามิ โซอิจิโร่ พยายามตามจับตัว พยายามสืบหาว่า "คิระ" คือใคร และ ใช้วิธีใดในการฆ่าคนเพียงแต่เห็นหน้าและทราบชื่อ โดยมี วาตาริ เป็นผู้ช่วย ระหว่างนี้ L ขอให้ทางสหรัฐฯ ส่ง FBI เข้ามาติดตามผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคิระ ทางด้านไลท์ได้ทดสอบใช้งานโน้ต จนทราบว่าสามารถที่จะกำหนดให้บุคคลเสียชีวิตด้วยเหตุอื่นๆ และสามารถกำหนดเวลาที่จะให้เสียชีวิตได้ด้วย จนในที่สุดสามารถใช้เดธโน้ตฆ่า FBI ที่เข้ามาได้ทั้งหมด ทำให้ L เริ่มมั่นใจว่า ไลท์ น่าจะเป็นคิระ และคอยดูไลท์อยู่เรื่อย ๆ
เมื่อถึงวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยของไลท์ Lก็ได้มาสอบด้วยและได้คะแนนเท่ากันทุกวิชา Lก็ได้ขอให้ไลท์เข้าทีมสืบสวนด้วย
แต่แล้วจู่ๆ ก็มีวีดีโอเทปถูกส่งมายังสถานีโทรทัศน์ ระบุว่าตนเองคือ "คิระ" โดยสามารถฆ่าคนได้ เพียงแค่รู้จักหน้าตาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทราบชื่อ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ไลท์พยายามหาทางติดต่อกับ คิระ คนนั้น จนในที่สุด ไลท์สามารถดึงตัว อามาเนะ มิสะคิระเบอร์ 2 มาเป็นพวกได้ในที่สุด เพราะมิสะเองได้หลงรักไลท์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยสาเหตุที่คิระได้ ฆาตกรรม คนที่สังหารพ่อแม่ของมิสะไว้ และยังช่วยชีวิตของมิสะไว้อีก ต่อมาไลท์เองพยายาม ทำให้มิสะเจอกับ L ให้ได้ ส่วน L เองก็เชื่อว่ามีคิระ 2 คน ดังนั้น L จึงออกมาพบกับไลท์เพื่อเฝ้าติดตามดูไลท์ตลอดเวลา เมื่อ L ออกมาพบกับไลท์ และบังเอิญเจอมิสะ L ได้พบพิรุธของมิสะ พร้อมกับพบหลักฐานบางส่วนที่มิสะใช้ทำวีดีโอเทปปลอม จึงจับกุมตัวมิสะในทันที ในฐานะคิระหมายเลข 2 ทำให้ไลท์ไม่สามารถใช้มิสะในการกำจัด L ได้ สุดท้าย เรม (ยมทูตที่ติดตาม มิสะ) ได้ยึดความเป็นเจ้าของโน้ตคืนจากมิสะ และ คิดจะฆ่าไลท์ หากไลท์ไม่สามารถช่วยมิสะออกมาได้ เหตุการณ์ไม่คาดคิดนี้เอง ทำให้ไลท์ต้องวางแผนสุดท้ายในการกำจัด L โดยมีเรนมาช่วยด้วยอีกแรง โดยแผนการในครั้งนี้ ทำให้ไลท์ต้องเสียสิทธิ์ในการครอบครองเดธโน้ต ต้องกลับมาเป็นคนธรรมดา เพื่อช่วย L สืบหาตัวคิระ โดยให้เรน นำโน้ตของมิสะไปให้ หนึ่งในผู้บริหาร 8 คนของ บ.โยทสึบะ เพื่อเป็นคิระคนใหม่แทน มิสะ โดยเป็นตัวร่วมในแผนการของไลท์เองในครั้งนี้
การร่วมมือระหว่าง L กับ ไลท์ ในการตามจับตัวคิระ ดำเนินไปจนถึงขั้นสุดท้าย จนสามารถจับตัวคิระ หนึ่งในผู้บริหาร บ.โยทสึบะ และยึดโน้ตมาได้สำเร็จ จึงทำให้ L เห็นยมทูต และ รู้วิธีการฆ่าในที่สุด เมื่อไลท์ได้แตะโน้ตอีกครั้ง ทำให้ความทรงจำคืนมาทั้งหมด และ แอบเขียนโน้ตที่ซ่อนไว้ในนาฬิกา ฆ่าคิระ (ผู้บริหาร บ.โยทสึบะ) เพื่อปิดปาก โดยแม้ว่าหลักฐานจะสรุปว่าคิระได้ตายไปแล้ว แต่ L ก็ไม่ลดละความพยายามในการพิสูจน์ว่า ไลท์ คือ คิระ และ มิสะ คือ คิระหมายเลข 2 ทำให้ เรม ซึ่งกลัวว่ามิสะจะต้องถูกจับในฐานะคิระหมายเลข 2 ต้องทำอะไรบางอย่างในที่สุด ซึ่งก็คือการที่เรมได้เขียนชื่อของวาตาริและ L ลงไปในเดธโน้ต เมื่อเป็นการต่อชีวิตให้กับมนุษย์ เรมจึงต้องตาย โดยทุกคนหารู้ไม่ว่า ทุกอย่างเป็นแผนการทั้งหมดของไลท์ที่วางไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
เมื่อถึงวันหนึ่ง L และวาตาริก็ได้จากไปด้วยอาการหัวใจวายตาย
ภาคสอง
หลังจาก L และ วาตาริ ตายไปไม่นาน เครื่องคอมพิวเตอร์ของ วาตาริ ได้ทำการส่งข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคดีคิระไปที่แห่งนึงซึ่งนั่นก็คือสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งก่อตั้งโดย ควิลล์ แวมมี่ เป็นเจ้าของ และมี โรเจอร์ เป็นผู้ดูแลอยู่ ก็ทำให้ทราบว่า วาตาริ เป็นเจ้าของบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้นั่นเอง เนียร์ และ เมลโล ก็อยู่ในระหว่างการคัดเลือกว่า ใครจะมาแทน L ซึ่ง เมลโล รู้ตัวว่าเป็นรอง เนียร์ จึงออกจากบ้านเด็กกำพร้า และหาทางสืบเรื่องคิระ ตามวิธีของตน เพื่อที่จะแสดงให้คนอื่นเห็นว่า ตนเองมีความสามารถ และไปเข้ากับพวกองค์กรมาเฟียระดับโลก โดยยื่นเงื่อนไขในการจัดการคิระให้ เพื่อพวกมาเฟียจะไม่ถูกคิระเขียนชื่อลงในเดธโน้ต ส่วนทาง เนียร์ ได้นำข้อมูลทั้งหมดไปให้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และขอให้จัดสรรทีม SPK (Secret Provision For Kira) เพื่อสืบคดีคิระต่อ ยางามิ ไลท์ ก็สืบทอดตำแหน่งการตามจับคิระต่อไปในร่างของ L โดยเข้าไปทำงานด้านข้อมูลของกรมตำรวจ
ทางเมลโลกับพวกมาเฟีย จับ ผบตร. ของญี่ปุ่นมา เพื่อสอบถามข้อมูลของเดธโน้ต แต่ ผบตร.ก็ตายด้วยน้ำมือของไลท์ ต่อมาเมลโลวางแผนจับตัว ยางามิ ซายุ มาต่อรองการแลกโน้ตจาก ยางามิ โซอิจิโร่ หลังจากเมลโลแลกโน้ตกับซายุแล้ว ได้ทำการศึกษาเดธโน้ต และเริ่มทดลองการใช้โน้ต ระหว่างนี้ทางเนียร์เองได้ติดต่อกับ L หมายเลข 2 (ยางามิ ไลท์) เพื่อร่วมกันแย่งเดธโน้ตคืนจากเมลโล สุดท้ายได้รับความร่วมมือจาก ชีโดว์ ยมทูตซึ่งเป็นเจ้าของโน้ตเล่มแรกที่แท้จริง (โน้ตที่ได้จากลุคเล่มแรก) โดยการแย่งคืนโน้ตครั้งนี้ แม้ว่าจะสามารถแย่งโน้ตคืนมาได้ รวมถึงรู้ชื่อที่แท้จริงของเมลโล แต่ก็ต้องทำให้พ่อของไลท์ (ยางามิ โซอิจิโร่) ต้องเสียชีวิตไป และ เมลโล ก็หนีไปได้
ต่อมาไม่นาน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสียชีวิตลงโดยฝีมือของ คิระ เหตุการณ์นี้ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ล้มเลิกความคิดที่จะสืบหาตัวคิระ และมายืนอยู่ฝ่ายเดียวกับคิระจนทำให้หน่วย SPK ของเนียร์ต้องถูกปิดลง แต่ทางเนียร์กับพวกที่เหลืออีก 3 คนต่างไม่ยอมล้มเลิกการตามหาตัวคิระ และได้ใช้เงินกองทุนของ L ในการดำเนินการสืบหาคิระต่อไป ต่อมาเมลโลได้ติดต่อกลับมาทางเนียร์ผ่านทาง ริโดน่า สมาชิก 1 ใน 3 ของ SPK ที่ยังทำงานกับเนียร์ และเล่าเรื่องเดธโน้ตที่รู้ให้เนียร์ฟังก่อนจะจากไป ในตอนนั้นเนียร์เองก็เริ่มสงสัยในตัวไลท์ หรือ L หมายเลข 2 โดยเริ่มติดต่อกับคนในทีมของไลท์ 2 คน คือ โมงิ กับ ไอซาวะ และอนุญาตให้โมงิมาพบเนียร์ได้ ตอนนั้นไลท์ซึ่งต้องการจัดการเนียร์อยู่แล้ว จึงซ้อนแผนไปอีกทีหนึ่ง ทำให้ที่อยู่ของเนียร์ถูกค้นพบและถูกทำลายลง แต่เนียร์และสมาชิกทีม SPK ทั้ง 3 คน ก็หนีรอดออกมาได้
การกระทำและการเฝ้าจับตาดู L หมายเลข 2 ของเนียร์ ทำให้ไลท์ทำหน้าที่คิระไม่ได้ และจำเป็นต้องหาตัวแทนขึ้นมา สุดท้ายจำเป็นต้องเลือก มิคามิ เทรุ มาเป็นตัวแทนคิระ มิคามิยอมแลกเปลี่ยนดวงตายมทูต เพราะศรัทธาในตัวคิระเมื่อตอนที่โฆษกซากุระทีวีตาย มิคามิได้เลือกโฆษกคนใหม่ ซึ่งก็คือ ทาคาดะ คิโยมิ แฟนของไลท์สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อไลท์ได้พบกับทาคาดะ ก็แสดงความรักต่อทาคาดะ และสารภาพกับทาคาดะไปว่าเขาคือ คิระ ทางทาคาดะเองซึ่งศรัทธาในการกระทำของคิระอยู่แล้ว บวกกับชอบพอในตัวไลท์มาก่อน ก็ตอบตกลงช่วยเหลือไลท์ในทันที ซึ่งทำให้ไลท์สามารถใช้งานทาคาดะ เป็นตัวกลางระหว่างติดต่อกับมิคามิ โดยทุกครั้งที่ไลท์นัดเจอกับทาคาดะ ไลท์จะติดเครื่องดักฟังเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ในทีมคนอื่นสงสัย แต่อาศัยการเขียนความต้องการลงในกระดาษเพื่อเป็นการสื่อสารกับทาคาดะแทน
ทาคาดะ ซึ่งเป็นคนเดียวที่สามารถติดต่อกับคิระได้ ทำให้เธอมีสิทธิ์อยู่เหนือคนธรรมดาทั่วไป ในเวลานั้นทางมิคามิเองก็ฆ่าคนอื่นไปตามคำสั่งของไลท์ ที่ส่งผ่านมาทางทาคาดะ ต่อมาทาคาดะได้จ้างบอดี้การ์ด 4 คนเพื่อคุ้มกันตัวเธอเองหนึ่งในนั้นคือ ริโดน่า สมาชิก SPK ซึ่งทาคาดะไม่รู้ว่าเนียร์ส่งริโดน่าให้มาจับตาดูเธอ ส่วนทางไอซาว่า ที่ติดต่อกับเนียร์ ก็เริ่มจับตาดูไลท์เป็นระยะ และเริ่มมั่นใจว่าไลท์คือคิระ แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้
ทางเนียร์เริ่มสงสัยในตัวมิคามิ และสั่งให้เจวานนี่ตามเฝ้ามิคามิตลอด จนในที่สุดเจวานนี่สามารถเข้าถึงเดธโน้ตที่อยู่ในมือมิคามิได้สำเร็จ และถ่ายรูปข้อความทั้งหมดในเดธโน้ตกลับมาให้เนียร์ แต่หลักฐานนั้นยังไม่พอที่จะสาวไปถึงตัวไลท์ได้ เพราะไลท์ไม่ได้ติดต่อกับทางมิคามิโดยตรง มีทางเดียวคือต้องให้ไลท์เป็นคนยอมรับเองว่าเป็นคิระ ทางเนียร์จึงให้เจวานนี่ติดตามมิคามิต่อไป รวมถึงตัวเองก็คิดหาทางจัดการกับคิระไปด้วย โดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดอยู่ในแผนของไลท์ ที่วางเอาไว้แล้ว
เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว และมั่นใจเต็มที่ว่าไลท์คือคิระ ทางเนียร์จึงได้นัดกับไลท์ออกมาพบกันเพื่อมาพิสูจน์ในครั้งสุดท้าย ส่วนไลท์เองก็หาโอกาสกำจัดเนียร์มานาน ในเมื่อเนียร์เป็นฝ่ายนัดมาเองก็ยินดียิ่ง เพราะจะเป็นโอกาสจัดการทุกคนในทีเดียว โดยจะเจออีกครั้งใน 3 วันให้หลัง โดยเนียร์จะพาทีม SPK ซึ่งประกอบด้วย เลสเตอร์ โจวานนี่ และริโดน่า ไปทั้งหมด และไลท์เองก็พาทีมอันประกอบด้วย โมงิ ไอซาว่า อิเดะ และ มัตสึดะ ทั้งหมด ไปนัดเจอกันที่โกดังร้างแห่งหนึ่ง เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้ว ต่างก็ยุติการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น
แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเมลโลลักพาตัวทาคาดะไป แต่ท้ายที่สุด เมลโลก็ต้องตายโดยฝีมือของทาคาดะ โดยทาคาดะเขียนชื่อจริงของเมลโลลงในเศษกระดาษเดธโน้ต ที่ไลท์ได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้ (ไลท์ ได้เคยบอกชื่อ และให้ดูรูปตอนเด็กของ เมลโล แก่ ทาคาดะ ไว้ก่อนแล้ว) หลังจากทราบว่าเมลโล ได้ตายแล้ว ไลท์ต้องการทำลายหลักฐานทั้งหมด ระหว่างเดินทางไปรับตัวทาคาดะ จึงได้เขียนชื่อทาคาดะลงเดธโน้ต และใส่สาเหตุการตายว่าฆ่าตัวตาย โดยการเผาร่างตัวเองพร้อมวัตถุใกล้ตัว แม้จะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้การนัดพบของทั้งเนียร์และไลท์ต้องยกเลิก เพราะต่างฝ่ายต่างวางแผนของตนไว้อย่างดีแล้ว
เมื่อถึงวันนัด ทั้งสองมาพบกัน ต่างฝ่ายก็มั่นใจว่าต่างเตรียมตัวมาดีแล้ว สุดท้ายแผนการเปิดโปงตัวจริงของคิระจากเนียร์ ที่วางไว้ถูกซ้อนแผนโดยไลท์ โดยมีมิคามิเป็นตัวร่วมในครั้งนี้ และการตายของเมลโลในคราวนั้น กลับช่วยเนียร์ซ้อนแผนกลับไปที่ไลท์ได้อีกครั้ง และช่วยทำให้ทุกคนรอดตายจากน้ำมือของไลท์ได้ในที่สุด
หลังจากถูกเปิดโปงได้ว่าไลท์คือคิระ ทำเอาไลท์พยายามหาทางเกลี้ยกล่อมคนที่เหลือ และหาวิธีกำจัดเนียร์ ส่วนมิคามิก็ถูกรวบตัวไป เมื่อรวบรวมสติได้ไลท์ ก็ตั้งใจจะเขียนชื่อเนียร์ลงบนเศษของโน้ตที่ซ่อนอยู่ในนาฬิกา แต่มัตสึดะเห็นเสียก่อนจึงยิงปืนใส่ไลท์ แล้วบอกว่า "ไลท์เป็นคนทำให้พ่อของตัวเอง (ยางามิ โซอิจิโร่) ตาย" มัตสึดะจึงยิงไลท์เข้าไปหลายนัดจนไลท์หมดสภาพ พยายามดิ้นรนขอให้ มิคามิเขียนชื่อพวก SPK แต่มิคามิถูกจับอยู่ แถมโน้ตที่อยู่กับตัวก็เป็นของปลอม มิคามิจึงเจาะเอาเลือดของตัวเองมาเขียนลงเศษเดธโน๊ตของไลท์แต่ไม่สำเร็จ ความดันเลือดที่มากขนาดนี้ทำให้เขาตาย ไลท์เดินโซซัดโซเซหนีไปได้สักระยะหนึ่งแล้วก็ถูกลุคฆ่าตายด้วยเดธโน๊ต
ผ่านมาเป็นเวลา 1 ปี โลกกลับสู่สภาพเดิมก่อนที่จะมีคิระมาพิพากษา ไอซาว่า ได้เป็น ผ.บ. เนียร์ได้เป็น L โรเจอร์ได้เป็นวาตาริ และทำการสืบคดีเรื่องการค้ายาเสพติด ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเป็นปกติ โดยก่อนหน้านั้นเนียร์ได้เผาโน้ตที่มีอยู่ทั้งหมดทิ้ง แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีกลุ่มคนที่ยังคิดว่า คิระแค่หยุดพักไปเท่านั้น และยังเชื่อกันอยู่ว่าสักวันคิระจะกลับมา
จบเนื้อหาส่วนที่เสียอรรถรสแล้ว ข้อความด้านบนนี้กล่าวถึงเนื้อเรื่องหรือฉากจบ
ตัวละคร
ไลท์ ยางามิ(「夜神 月」, Yagami Raito, 夜神 月?)(วันเกิด 28 กุมภาพันธ์ 1986)
(ชื่อสมมุติในเรื่องคือ คิระ และสวมบทเป็น L รุ่นที่ 2) ตัวเอกของเรื่อง เป็นนักเรียนมัธยมปลายผู้เบื่อหน่ายและเสื่อมศรัทธาต่อความยุติธรรมในโลก เมื่อเขาเก็บเดธโน้ตได้ จึงตั้งใจที่จะกำจัดคนชั่ว เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ตามความคิดของตน ภายหลังเมื่อมีคนมาขัดขวางก็หาทางกำจัดศัตรูทางความคิดของตนด้วย เนื่องจากความตั้งใจของไลท์ที่จะทำให้สำเร็จ จึงไม่ได้คำนึงว่าบุคคลเหล่านั้นจะเป็นใคร แม้แต่พ่อของตนเอง
L (L. Lawliet) (「エル・ローライト」, Eru Rōraito, エル・ローライト?) (วันเกิด 31 ตุลาคม 1979)
(แอล หรือชื่ออื่นคือ ริวซากิ และ ริวงะ) เป็นนักสืบที่มีอายุมากกว่าไลท์7ปี และยังมีความสามารถเหนือกว่าไลท์เกือบทุกด้าน มีความสามารถในการสืบสวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นนักสืบอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งสามารถสั่งการ FBI และตำรวจทั่วโลก ได้ และมีความคิดว่า สิ่งที่คิระทำเป็นสิ่งที่ผิด จึงหาทางจับตัวคิระ จนกระทั่งสงสัยว่าไลท์คือ "คิระ" แต่ถูกไลท์ชิงกำจัดได้ก่อนโดยหลอกใช้ "เรม" (ในเล่ม 13 How to Read ที่ออกจำหน่าย วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 2549 ชื่อจริงของแอลได้ถูกเปิดเผยขึ้นว่า L Lawliet หรือ แอล ลอว์ไลท์ โดยชื่อของแอลนั้นถูกตั้งให้ตรงกันข้ามกับชื่อของไลท์)
ชื่อของ L อ่านในภาษาไทยว่า แอล ในขณะที่ภาษาอังกฤษอ่าน เอล ตามตัวอักษร L และภาษาญี่ปุ่นอ่าน เอะรุ (เนื่องจากภาษาญี่ปุ่นไม่มี ล ลิง)
วาตาริ (Quill Wammy)(「ワタリ」, Watari หรือ Quillsh Wammy, ワタリ?)
เป็นผู้ก่อตั้งบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ชื่อ Wammy's House ที่ L เนียร์ และเมลโลเคยอยู่
โรเจอร์ (Roger Ruvie)(ロジャー・ラヴィー, Rojā Ravī)
เป็นผู้สืบทอดชื่อของวาตาริ และเป็นวาตาริของเนียร์ที่เป็นผู้สืบทอด L
ยมทูตลุค (「リューク」, Ryūku, リューク?)
ยมทูตที่ชอบกินแอปเปิลของโลกมนุษย์ เบื่อชีวิตซ้ำซากในยมโลก อยากจะทำอะไรสนุกๆ จึงนำเดธโน้ต มาทิ้งไว้ที่โลกมนุษย์ ซึ่งผู้ที่เก็บได้ก็คือ "ไลท์" ตอนหลังก็ได้ฆ่าไลท์ไป
อามาเนะ มิสะ (「弥 海砂」, Amane Misa, 弥 海砂?)
เด็กสาวไอดอลผู้หลงรักไลท์อย่างโงหัวไม่ขึ้น ถึงกับยอมแลก ดวงตายมทูต จาก เรม และ ลุค ด้วยอายุขัยครึ่งหนึ่งของตน เพื่อช่วยทำงานให้ไลท์ และต่อมามิสะได้เป็นคิระหมายเลข 2และตอนหลังได้หายตัวไป
ยมทูตเรม (Rem)
ยมทูตที่ติดตาม "มิสะ" ภายหลัง เพื่อช่วยมิสะจากแผนการที่ไลท์วางไว้ จึงยอมสละชีวิตตัวเอง ฆ่า L และ วาตาริ
ยางามิ โซอิจิโร่ (Yagami Soichiro)
เป็นพ่อของไลท์และเป็นหัวหน้ากองสืบสวนญี่ปุ่น (NPA) โซอิจิโร่ได้สืบสวนคดีคิระจนกระทั่งตนเองได้ตายเพราะถูกสมาชิกแก๊งมาเฟีย (พวกของเมลโล) ยิง และถูกระเบิดซ้ำอีก ในตอนที่พบกับเมลโลนั้นถูกหยามไว้ว่า "นายน่ะ ไม่เคยฆ่าคนใช่มั้ยล่ะ คงทำไม่ลงหรอก" ซึ่งก็เป็นความจริง โซอิจิโร่เสียชีวิตที่ รพ.แห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนั้น ไลท์ที่อยู่ข้างเตียงก็ได้แต่บอกให้โซอิจิโร่เขียนชื่อจริงของเมลโลลงในเดธโน้ต แต่โซอิจิโร่สิ้นใจก่อนที่จะเขียน และโซอิจิโร่เชื่อว่าไลท์ไม่ได้เป็นคิระ เพราะโซอิจิโร่ที่มีดวงตายมทูต ยังคงสามารถเห็นอายุขัยของไลท์ (โดยปกติแล้ว ผู้ที่มีดวงตายมทูตจะมองไม่เห็นอายุขัยของผู้ที่ครอบครองเดธโน้ต)
มิคามิ เทรุ (Mikami Teru)
เมื่อไลท์ถูกจับตามอง จนไม่สามารถเคลื่อนไหวในชื่อ "คิระ" ได้ จึงได้เลือก มิคามิ มาเป็นผู้ทำหน้าที่แทนไลท์ มิคามิยอมแลกอายุขัยตัวเองครึ่งหนึ่งกับดวงตายมทูต และเลือก ทาคาดะ เป็นโฆษกรายการทีวีของคิระ หลังจากที่มิคามิถูกพวก SPK จับกุมตัวในคุก 10 วันต่อมา เขาก็ตายในคุก
ทาคาดะ คิโยมิ (Takada Kiyomi)
แฟนของไลท์สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกรายการทีวีของคิระ ซึ่งไลท์ก็นำเอาความหลังมาหลอกใช้ แต่ในที่สุดทาคาดะก็ตายเพราะอายุขัยลดลงเนื่องจากใช้ดวงตายมทูต
เมลโล (Mihael Keehl)
อยู่สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า Wammy's House เหมือนกันกับ L และ เนียร์ แต่ความสามารถไม่เป็นรอง เนียร์ (เพียงแต่ขาดความเยือกเย็นที่เนียร์มี แต่ก็ได้ความกระตือรือร้นมาทดแทนในสิ่งที่เนียร์ขาดไป) จึงพยายามออกมาเพื่อที่จะแสดงให้คนอื่น เห็นว่าตัวเองนั้น เหนือกว่าเนียร์ ภายหลังเมลโลก็เสียชีวิตเพราะถูกทาคาดะฆ่าด้วยการเขียนชื่อ Mihael Keehl ลงในเดธโน้ต (ทาคาดะรู้ชื่อจริงของเมลโลจากไลท์ และไลท์ก็รู้ชื่อจริงของเมลโลจากพ่อของไลท์อีกต่อหนึ่ง ซึ่งในขณะนั้น พ่อของไลท์มีดวงตายมทูต จึงรู้ชื่อจริงของเมลโลได้) หากไม่มี เมลโล เนียร์อาจจะแพ้ให้แก่คิระในศึกสุดท้ายก็เป็นได้ (ระหว่าง L เนียร์ และเมลโล มีแต่เมลโลเท่านั้นที่ไม่เคยเจอคิระหรือไลท์เลย)
เนียร์ (Nate River)
เป็นผู้มาแทนแอล หรือผู้สืบทอด L ตัวจริง เมื่อแอลตายไปแล้ว เนียร์ก็ได้แอบสืบข้อมูลอย่างลับๆ จนได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และได้เข้าร่วมสืบสวนกับ SPK จนสามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของคิระ และเอาชนะคิระได้ โดยที่ตนเองก็เกือบจะไม่รอดเหมือนกัน เพราะเกือบถูกคิระเขียนชื่อจริงของเนียร์ ลงในเศษกระดาษเดธโน้ต
แม็ตต์ (Matt หรือ Mail Jeevas)
เป็นเพื่อนกับเมลโล อยู่กับเมลโลมาตลอด หลังจากที่กลุ่มมาเฟียที่เมลโลอยู่ด้วยตายหมด และเป็นคนช่วยประสานงานในการหาตัวคิระ แต่ตายเพราะโดนตำรวจญี่ปุ่นยิงหลังจากที่เมลโลลักพาตัวทาคาดะ คิโยมิไป
ยมทูตชีโดว์
ยมทูตที่ถูก ลุค หลอกเอาเดธโน้ตมาทิ้งไว้บนโลก ชีโดว์ พยายามที่จะเอาเดธโน้ตของตนคืน จึงโดนพวกเมลโลหลอกใช้ ซึ่งก็ได้ทำให้แผนการที่ไลท์วางไว้ ผิดพลาดไปอย่างมาก
เดธโน้ต
"เดธโน้ต" (Death Note) หรือ "บันทึกมรณะ" เป็นสมุดที่มียมทูตเป็นเจ้าของโดยมีอำนาจในการฆ่าผู้คนตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยถ้าไม่กำหนดสาเหตุการตาย ผู้ตายจะตายด้วยโรคหัวใจ ในการ์ตูนเรื่องนี้จะมีเดธโน้ตปรากฏมาสามเล่ม โดยเป็นของยมทูตลุค ยมทูตชีโดว์ และยมทูตเรม
เดธโน้ตของชีโดว์จะมีคำอธิบายการใช้งานไว้เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งลุคเชื่อว่าเป็นภาษาที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก โดยได้เขียนกฎไว้ดังนี้ (ถ้าใน How to Read ในฉบับการ์ตูนจะกฎบางส่วนที่ไม่ได้ถูกเขียนไว้เพิ่มเข้ามาอีก)
ใครก็ตามที่ถูกเขียนชื่อลงในสมุดเล่มนี้จะต้องตาย
เดธโน้ตจะส่งผลเฉพาะต่อคนที่ถูกเขียนชื่อ
ถ้าไม่ระบุสาเหตุการตาย คนที่ถุกเขียนชื่อจะตายด้วยอาการหัวใจวายทั้งหมด
แต่ถ้าหากจะลงรายละเอียดการตายไว้ จะมีเวลาให้ 6 นาที 40 วินาทีเพื่อลงรายละเอียดสภาพการตาย
ในกรณีที่ระบุวิธีการตายหากเขียนชื่อ คนมากกว่าหนึ่งคนในสถานการณ์เดียวกันหรือ เหตุการณ์เดียวกัน จะไม่เป็นตามที่ระบุไว้ แต่คนที่ถูกเขียนชื่อจะตายเพราะหัวใจวาย
ยมทูตไม่สามารถบอกอายุขัยของมนุษย์ที่ครอบครองเดธโน้ต
ผู้ที่ใช้เงื่อนไขดวงตายมทูตไม่สามารถมองอายุขัยของตัวเองได้
ถ้าเขียนสาเหตุการตายไว้ล่วงหน้าสามารถเติมชื่อทีหลังได้
ยมทูตไม่สามารถให้เดธโน้ตกับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี
เดธโน้ตไม่สามารถฆ่าคนที่มีอายุต่ำกว่า 124 วันได้
ผู้ใดที่สัมผัสเดธโน้ต คนๆ นั้นจะเห็นและได้ยินเสียงของยมทูต ถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าของเดธโน้ตก็ตาม
ผู้ที่ครอบครองเดธโน้ตสามารถแลกดวงตาของตัวเองกับดวงตาของยมทูตได้ โดยแลกกับอายุขัยครึ่งหนึ่งของตน
หากถอนการครอบครองสิทธิ์จากเดธโน้ต จะเสียความทรงจำเกี่ยวกับเดธโน้ตไปทั้งหมดรวมถึงความสามารถของดวงตายมทูตด้วย โดยมิได้รับอายุขัยที่เสียไปกลับคืนมา
เมื่อมนุษย์คนใดได้รับเงื่อนไขดวงตายมทูต สายตาจะเกิน 3.6
ยมทูตต้องมีเดธโน้ตครอบครองมากกว่า 1 เล่ม
ยมทูตมีทั้งเพศชายและหญิงแต่ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้
ยมทูตสามารถตายได้โดย
ต่อชีวิตให้มนุษย์ที่ถึงอายุขัยแล้ว
ลืมเขียนเดธโน้ตเกินอายุขัยของตัวเอง
ยมทูตไม่สามารถดูอายุขัยของคนอื่นและตัวเองได้
หน้ากระดาษเดธโน้ตไม่มีวันหมด
ใช้อะไรในการเขียนเดธโน้ตก็ได้แต่ต้องเขียนเป็นคำ
ถ้าฉีกกระดาษเดธโน้ตมาส่วนหนึ่งก็สามารถฆ่าคนได้เหมือนกัน
เดธโน้ตจะไม่มีผลเมื่อไม่มีคนชื่อนั้น
แต่ถ้าหากสัมผัสเดธโน้ตอีกคร้ง ความจำก็จะกลับมา ถึงแม้ไม่ใช่เล่มที่ตนเป็นเจ้าของก็ตาม แต่ถ้าเล่มนั้นมีเจ้าของอยู่ ความทรงจำจะกลับมาเมื่ออยู่สมุดอยู่ในมือเท่านั้น โดยฆ่าเจ้าของเดิมเสียก่อนความทรงจำถึงจะกลับมาอย่างถาวร
หากถูกเขียนชื่อลงไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไร คนๆนั้นก็ต้องตาย
หากเขียนชื่อลงไปแล้วไม่สามารถแก้ไขได้
ผู้ที่ใช้เดธโน้ตจะไม่ได้ขึ้นทั้งสวรรค์หรือแม้แต่จะลงนรก
ดวงตายมทูต
ดวงตายมทูตเป็นดวงตาที่มีพลังพิเศษของยมทูต ซึ่งจะสามารถมองเห็นชื่อและอายุขัยที่เหลืออยู่ของมนุษย์ได้ โดยยมทูตจะใช้ดวงตานี้เพื่อหาชื่อของมนุษย์และฆ่า เพื่อที่จะทำให้อายุขัยที่เหลืออยู่ของมนุษย์เป็นของตน ซึ่งการที่มนุษย์จะได้ความสามารถนี้มา ก็ต้องแลกด้วยอายุขัยครึ่งหนึ่งของที่เหลืออยู่ของตนเอง เช่น คนที่มีอายุขัยรวม 70 ปี เมื่ออายุครบ 20 ปี ก็เท่ากับว่าคนผู้นั้นจะมีอายุขัยเหลืออยู่อีก 50 ปี หากทำการแลกเปลี่ยนดวงตายมทูตในช่วงนี้ อายุขัยที่จะต้องเสียไปก็คือ 50÷2 เท่ากับ 25 ปี
ตัวละครที่เคยแลกเปลี่ยนดวงตายมทูต
อามาเนะ มิสะ (Kira No.2) ทำการแลกเปลี่ยนไป 2 ครั้ง ครั้งแรกแลกกับเรม ต่อมาแลกกับลุค
ฮิงูจิ เคียวสึเกะ (Kira No.3) ได้โน้ตมาจากเรม เพราะเรมไม่อยากให้มิสะโดนโทษประหาร
คาล สไนเดอร์
ยางามิ โซอิจิโร่ (แลกเปลี่ยนกับลุคเพื่อดูชื่อจริงของเมลโล่)
มิคามิ เทรุ (Kira No.4 หรือ X-Kira)
ผู้ที่แตะเดธโน้ต
ยมทูตทุกตน
ยางามิ ไลท์ (Kira)
ยางามิ โซอิจิโร่
L (แอล)
อามาเนะ มิสะ (Kira No.2)
ตำรวจที่ทำงานเกี่ยวข้องกับLทุกคน
เมลโล่
เนียร์
ฮิงูจิ เคียวสึเกะ (Kira No.3) ได้โน้ตมาจากเรม เพราะเรมไม่อยากให้มิสะโดนโทษประหาร
คาล สไนเดอร์
มิคามิ เทรุ (Kira No.4 หรือ X-Kira)
เจวานนี่ (ลูกน้องเนียร์ แอบสลับเปลี่ยนเดธโน้ตของ มิคามิ)
ทาคาดะ คิโยมิ (นักข่าว NHN ทำรายการอาณาจักรคิระ ช่องซากุระทีวี)
หมายเหตุ โจรปล้นรถเมล์ (ปรากฏในหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 1 และ 2) ได้แตะแค่กระดาษ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)